1. Website Planet
  2. >
  3. บล็อก
  4. >
  5. เทมเพลตนโยบายความเป็นส่วนตัว – ตามข้อกำหนดของ GDPR

เทมเพลตนโยบายความเป็นส่วนตัว – ตามข้อกำหนดของ GDPR

เกวน ร็อดเจอร์ ถูกเขียนขึ้นโดย:
บางครั้งเมื่อสร้างเว็บไซต์ของคุณ คุณอาจลืม “สิ่งเล็ก ๆ ” เช่นนโยบายความเป็นส่วนตัว คุณอาจมัวแต่สนใจสีสันและแถบนำทางจนลืมใส่หน้า “เล็ก ๆ ” เหล่านั้นลงไปด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อ EU ผ่านกฎหมายGeneral Protection Regulation (GDPR)  ซึ่งเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยนโยบายด้านข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ชมเป้าหมายของคุณอยู่ในประเทศในสหภาพยุโรปอย่างน้อยหนึ่งประเทศ

ลองใช้เวลาสักครู่ทำความรู้จักกับนโยบายความเป็นส่วนตัวออนไลน์

เว็บไซต์ของฉันต้องมีนโยบายความเป็นส่วนตัวหรือเปล่า

หากเว็บไซตต์ของคุณจัดเก็บข้อมูลการเข้าชมจจากผู้ใช้ แสดงโฆษณาและ/หรือติดตามผู้เข้าชม ใช่ เว็บไซต์ของคุณจำเป็นต้องมีนโยบายความเป็นส่วนตัว

หากธุรกิจของคุณตั้งอยู่ในกลุ่มประเทศยุโรปและ/หรือวางแผนที่จะทำธุรกิจกับลูกค้าที่มาจากประเทศยุโรป ไม่เพียงแต่คคุณต้องมีนโยบายความเป็นส่วนตัวเท่านั้นแต่มันยังต้องเป็นไปตามตามข้อกำหนดของ GDPR

นโยบายความเป็นส่วนตัวต้องมีอะไรบ้าง

นโยบายความเป็นส่วนตัวชองคคุณจะต้องอธิบาย 3 สิ่งสำคัญต่อไปนี้:
  1. ข้อมูลประเภทไหนที่คุณจัดเก็บ
  2. ข้อมูลเหล่านี้จะถูกจัดเก็บอย่างไร
  3. ข้อมูลเหล่านี้จะถูกจะเก็บไว้ที่ไหนและปกป้องอย่างไร

ตามทมีประเภทข้อมูลกี่ประเภทที่สามารถจัดเก็บได้

ใช่ นโยบานส่วนบุคคลนั้นมีความแตกต่างระหว่างข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้และข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลของ National Institute of Standards and Technology ได้ให้ความหมายถึงคำว่า “ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้” เอาไว้ว่า:

“ข้อมูลใดก็ตามของบุคคลที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้โดยบริษัท (1) ข้อมูลใดก็ตามที่สามารถระบุหรือติดตามบุคคล เช่น ชื่อ หมายเลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด ชื่อกลางของแม่หรือประวัติไบโอเมตริกซ์และ (2) ข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังบุคคล เช่น ประวัติการรักษา ประวัติการศึกษา ประวัติการเงินและประวัติการจ้างงาน”

ในขณะที่ “ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล” ได้อธิบายไว้ว่า:

“ข้อมูลใดก็ตามที่เกี่ยวข้องบุคคล บัญชีหรือโปรไฟล์ แต่ไม่เพียงพอที่จะระบุ ติดต่อหรือบ่งบอกตำแหน่งบุคคลเหล่านั้นได้”

หากฉันไม่แสดงนโยบายส่วนบุคคลในเว็บไซต์ของฉัน มันจะมีปัญหาอะไรตามมาหรือเปล่า

มี

เป็นความผิดที่ต้องโทษในการรวบรวมข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ คุณจะต้องระบุให้แน่ชัดว่าข้อมูลประเภทไทนที่คุณจัดเก็บและต้องมีการอัพเดทนโยบายส่วนบุคคลของคุณเป็นประจำหากมีการเปลี่ยนแปลง หากคุณไม่ทำเช่นนั้น คุณจะถูกปรับ 20 ล้านยูโรหรือ 4% ของรายได้จากทั่วโลกของคุณ

เทมเพลตนโยบายความเป็นส่วนตัว – ตามข้อกำหนดของ GDPR

ที่ WebsitePlanet.com เราต้องการช่วยคุณในการเริ่มต้นใช้งานและหวังว่าคุณจะประหยัดค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย ดังนั้นเราจึงได้เตรียมนโยบายส่วนบุคคลตัวอย่างต่อไปนี้ไว้ คุณสามารถดาวน์โหลด ปรับเปลี่ยน ใช้บนเว็บไซต์ของคุณและแบ่งปันกับเพื่อนและเพื่อนร่วมงานของคุณ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้แก้ไขส่วนที่ปรากฏในเครื่องหมายวงเล็บ {… } ซึ่งคุณต้องแก้ไขตัวอย่างเพื่อให้ตรงกับข้อมูลเฉพาะของเว็บไซต์ของคุณ

เราเป็นคนดีแต่เราไม่ใช่นักกฎหมายและนี่ไม่ใช่คำแนะนำทางกฎหมาย นโยบายความเป็นส่วนตัวตัวอย่างนี้เป็นจุดเริ่มต้นและกรอบการทำงานสำหรับคุณเพื่อใช้ร่วมกับคำแนะนำและการปรับเปลี่ยนจากที่ปรึกษาด้านกฎหมายที่มีคุณสมบัติและมีประสบการณ์

นี้เป็นตัวอย่างนโยบายด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนและใช้เพื่อให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของ บริษัท ของคุณได้ – โปรดปรึกษากับที่ปรึกษาด้านกฎหมายที่มีประสบการณ์:

ก. บทนำ
  1. ความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นสิ่งที่สำคัญกับเรามากและเราก็ตั้งใจรักษาความเป็นส่วนตัวของพวกเขา นโยบายนี้จะอธิบายว่าเราจะนำข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปทำอะไรบ้าง
  2. การที่คุณยินยอมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของนโยบายนี้ในครั้งแรกที่คุณเข้าชมเว็บไซต์จะเป็นการอนุญาตให้เราใช้คุกกี้ทุก ๆครั้งที่คุณเข้าชมเว็บไซต์ของเรา
ข. เครดิต
เอกสารนี้สร้างขึ้นโดยใช้แม่แบบจาก SEQ Legal (seqlegal.com)
และแก้ไขโดย Website Planet (www.websiteplanet.com)

ค. การรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่อไปนี้อาจถูกรวบรวม จัดเก็บ และนำไปใช้งาน:
  1. ข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ของคุณรวมถึง IP address ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ และระบบปฏิบัติการ
  2. ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าชมและการใช้งานเว็บไซต์นี้รวมถึงแหล่งอ้างอิงความยาวของการเข้าชมการดูหน้าเว็บและเส้นทางการนำทางเว็บไซต์
  3. ข้อมูล เช่น ที่อยู่อีเมลของคุณที่คุณกรอกเมื่อคุณลงทะเบียนกับเว็บไซต์ของเรา
  4. ข้อมูลที่คุณกรอกเมื่อคุณสร้างโปรไฟล์บนเว็บไซต์ของเรา – เช่น ชื่อ รูปภาพโปรไฟล์ เพศ วันเกิด สถานะความสัมพันธ์ ความสนใจและงานอดิเรก รายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษาและรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงาน
  5. ข้อมูล เช่น ที่อยู่อีเมลของคุณที่คุณกรอกเพื่อสมัครสมาชิกสำหรับรับอีเมลและจดหมายข่าวของเรา
  6. ข้อมูลที่คุณกรอกระหว่างการใช้บริการเว็บไซต์ของเรา
  7. ข้อมูลที่สร้างขึ้นขณะใช้งานเว็บไซต์ของเรารวมถึงเวลาที่ใช้ ความถี่ในการใช้งานและสถานการณ์ที่คุณใช้งาน
  8. ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณซื้อ บริการที่คุณใช้ หรือธุรกรรมที่คุณทำผ่านเว็บไซต์ของเรา ซึ่งรวมถึงชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมลและรายละเอียดบัตรเครดิต
  9. ข้อมูลที่คุณโพสต์ในเว็บไซต์ของเราโดยมีเจตนาที่จะเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตซึ่งรวมถึง ชื่อผู้ใช้ รูปภาพโปรไฟล์ และเนื้อหาของโพสต์ของคุณ
  10. ข้อมูลที่มีอยู่ในการสื่อสารใด ๆ ที่คุณส่งถึงเราทางอีเมลหรือผ่านเว็บไซต์ของเรารวมถึงเนื้อหาการสื่อสารและข้อมูลเมตา
  11. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่คุณส่งถึงเรา
ก่อนที่คุณจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่เรา คุณต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นทั้งในการเปิดเผยและการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายนี้

ง. การใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งถึงเราผ่านเว็บไซต์ของเราจะถูกใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้หรือในหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องบนเว็บไซต์ เราอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในกรณีต่อไปนี้:
  1. ดูแลเว็บไซต์และธุรกิจของเรา
  2. ปรับปรุงเว็บไซต์ของเราให้เหมาะกับคุณ
  3. ทำให้คุณสามารถใช้บริการที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราได้
  4. ส่งสินค้าที่คุณซื้อผ่านเว็บไซต์ของเรา
  5. จัดหาบริการที่ซื้อผ่านเว็บไซต์ของเรา
  6. จัดส่งใบแจ้งยอด ใบแจ้งหนี้ และการแจ้งเตือนการชำระเงินถึงคุณและเก็บเงินจากคุณ
  7. ส่งการสื่อสารทางการค้าที่ไม่เกี่ยวกับการตลาดให้คุณ
  8. ส่งการแจ้งเตือนทางอีเมลที่คุณขอโดยเฉพาะ
  9. ส่งจดหมายข่าวทางอีเมลของเราถึงคุณหากคุณขอ (คุณสามารถแจ้งให้เราทราบได้ตลอดเวลาหากคุณไม่ต้องการจดหมายข่าวแล้ว)
  10. ส่งการสื่อสารการตลาดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราหรือธุรกิจของบุคคลที่สามที่ได้รับการคัดเลือกอย่างรอบคอบซึ่งเราคิดว่าคุณอาจสนใจผ่านทางไปรษณีย์ ซึ่งคุณได้ตกลงเป็นพิเศษในกรณีนี้ ทางอีเมล หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน (คุณสามารถแจ้งเราได้ตลอดเวลาหากคุณไม่ต้องการการสื่อสารการตลาดแล้ว)
  11. การให้ข้อมูลทางสถิติแก่บุคคลที่สามเกี่ยวกับผู้ใช้ของเรา (แต่บุคคลที่สามเหล่านั้นจะไม่สามารถระบุผู้ใช้รายบุคคลจากข้อมูลนั้นได้)
  12. การจัดการกับข้อสงสัยและข้อร้องเรียนจากคุณหรือเกี่ยวกับคุณที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา
  13. รักษาเว็บไซต์ของเราให้ปลอดภัยและป้องกันการฉ้อโกง
  14. ตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ควบคุมการใช้งานเว็บไซต์ของเรา (รวมถึงการตรวจสอบข้อความส่วนตัวที่ส่งผ่านบริการส่งข้อความส่วนตัวบนเว็บไซต์ของเรา) และ
  15. การใช้งานอื่น ๆ
หากคุณส่งข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการเผยแพร่บนเว็บไซต์ของเรา เราจะเผยแพร่และใช้ข้อมูลนั้นตามสัญญาอนุญาตที่คุณให้แก่เรา

การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของคุณสามารถใช้เพื่อจำกัดการเผยแพร่ข้อมูลของคุณบนเว็บไซต์ของเราและสามารถปรับได้โดยใช้การควบคุมความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์

เราจะไม่ส่งข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลที่สามเพื่อการทำการตลาดทางตรงของพวกเขาและของบุคคลที่สามรายอื่น ๆ โดยปราศจากความยินยอมของคุณ

จ. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กับพนักงาน เจ้าหน้าที่ บริษัทประกัน ที่ปรึกษามืออาชีพ ตัวแทน ซัพพลายเออร์ หรือผู้รับเหมาช่วง ตามความจำเป็นอย่างสมเหตุสมผลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้

เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กับบริษัทในเครือของเรา (ซึ่งหมายถึงบริษัทย่อยของเรา บริษัทโฮลดิ้งของเราและบริษัทย่อยของบริษัทโฮลดิ้งทั้งหมด) ตามความจำเป็นอย่างสมเหตุสมผลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้

เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ:
  1. เท่าที่เราจะต้องทำตามกฎหมาย
  2. ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีทางกฎหมายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือคาดว่าจะเกิด
  3. เพื่อสร้าง ใช้ หรือปกป้องสิทธิ์ทางกฎหมายของเรา (รวมถึงการให้ข้อมูลแก่ผู้อื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันการฉ้อโกงและลดความเสี่ยงด้านเครดิต)
  4. แก่ผู้ซื้อ (หรือผู้ซื้อในอนาคต) ของธุรกิจหรือทรัพย์สินใด ๆ ที่เรา (หรือกำลังพิจารณา) ขาย และ
  5. แก่บุคคลใดก็ตามที่เราเชื่ออย่างสมเหตุสมผลว่าอาจนำไปใช้กับศาลหรือหน่วยงานที่มีอำนาจอื่น ๆ ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ในกรณีที่เราเห็นควรว่าศาลหรือหน่วยงานดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะมีคำสั่งให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
เราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณแก่บุคคลที่สามยกเว้นตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้

ฉ. การถ่ายโอนข้อมูลระหว่างประเทศ
  1. ข้อมูลที่เรารวบรวมอาจถูกจัดเก็บ ประมวลผล และถ่ายโอนระหว่างประเทศไปยังประเทศใด ๆ ที่เรามีการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้เราสามารถใช้ข้อมูลตามนโยบายนี้ได้
  2. ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมอาจถูกถ่ายโอนไปยังประเทศต่อไปนี้ซึ่งไม่มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลเทียบเท่ากับที่บังคับใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป: สหรัฐอเมริกา รัสเซีย ญี่ปุ่น จีน และอินเดีย
  3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณเผยแพร่บนเว็บไซต์ของเราหรือส่งเพื่อเผยแพร่บนเว็บไซต์ของเราสามารดูได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ตทั่วโลก เราไม่สามารถป้องกันการใช้หรือการใช้ข้อมูลดังกล่าวในทางที่ผิดโดยผู้อื่น
  4. คุณตกลงอย่างชัดเจนต่อการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อธิบายไว้ในส่วน ฉ
ช. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
  1. มาตรา ช. นี้กำหนดนโยบายและขั้นตอนการเก็บรักษาข้อมูลของเราซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้มั่นใจว่าเราปฏิบัติตามภาระผูกพันทางกฎหมายของเราเกี่ยวกับการเก็บและลบข้อมูลส่วนบุคคล
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะไม่ถูกเก็บไว้นานเกินความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์เหล่านั้น
  3. โดยปกติแล้วเรามักจะลบข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในหมวดหมู่ที่กำหนดไว้ด้านล่างตามวันที่ / เวลาที่กำหนดไว้ด้านล่าง ทั้งนี้ต้องไม่กระทบต่อมาตรา ช-2:
    1. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกลบ {กรอกวัน/เวลา}; และ
    2. {กรอกวัน/เวลาเพิ่มเติม}
  4. แม้จะมีบทบัญญัติอื่น ๆ ของมาตรา G นี้เราจะเก็บรักษาเอกสาร (รวมถึงเอกสารอิเล็กทรอนิกส์) ที่มีข้อมูลส่วนบุคคล:
    1. เท่าที่เราจะต้องทำตามกฎหมาย;
    2. หากเราเชื่อว่าเอกสารอาจเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีทางกฎหมายใด ๆ ที่กำลังดำเนินอยู่หรือที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและเพื่อสร้าง ใช้
    3. หรือปกป้องสิทธิ์ทางกฎหมายของเรา (รวมถึงการให้ข้อมูลแก่ผู้อื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันการฉ้อโกงและลดความเสี่ยงด้านเครดิต)
ซ. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
  1. เราจะทำการป้องกันทางเทคนิคและองค์กรอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณสูญหาย การนำไปข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปใช้ในทางที่ผิด หรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
  2. เราจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่คุณให้ไว้ในเซิร์ฟเวอร์ที่ปลอดภัย (ป้องกันด้วยรหัสผ่านและไฟร์วอลล์)
  3. ธุรกรรมทางการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่เข้าสู่เว็บไซต์ของเราจะได้รับการปกป้องโดยเทคโนโลยีการเข้ารหัส
  4. คุณรับทราบว่าการส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตนั้นไม่ปลอดภัยและเราไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ตได้
  5. คุณมีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษารหัสผ่านที่คุณใช้ในการเข้าเว็บไซต์ของเราให้เป็นความลับ เราจะไม่ถามรหัสผ่านของคุณ (ยกเว้นเมื่อคุณเข้าสู่เว็บไซต์ของเรา)
ฌ. การแก้ไข

เราอาจแก้ไขนโยบายนี้เป็นครั้งคราวโดยการเผยแพร่ฉบับใหม่บนเว็บไซต์ของเรา คุณควรตรวจสอบหน้านี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของนโยบายนี้ เราอาจแจ้งให้คุณทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ทางอีเมลหรือผ่านระบบส่งข้อความส่วนตัวบนเว็บไซต์ของเรา

ญ. สิทธิ์ของคุณ

คุณอาจสั่งให้เราให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เรามีเกี่ยวกับคุณ ข้อกำหนดของข้อมูลดังกล่าวจะเป็นไปตาม:
  1. ค่าธรรมเนียม {กรอกค่าธรรมเนียมหากเกี่ยวข้อง}; และ
  2. การแสดงหลักฐานที่เหมาะสมเกี่ยวกับตัวตนของคุณ ({ปรับข้อความเพื่อสะท้อนนโยบายของคุณ สำหรับจุดประสงค์นี้ปกติแล้วเรายอมรับสำเนาหนังสือเดินทางของคุณที่ได้รับการรับรองโดยทนายความพร้อมสำเนาต้นฉบับของใบเสร็จค่าสาธารณูปโภคที่แสดงที่อยู่ปัจจุบันของคุณ})
เราอาจระงับข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณร้องขอตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต

คุณสามารถสั่งเราได้ตลอดเวลาไม่ให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด

ในทางปฏิบัติ โดยทั่วไปแล้วคุณจะเห็นด้วยอย่างชัดเจนล่วงหน้าเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเราเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดหรือเราจะให้โอกาสคุณในการเลือกไม่ให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด

ฎ. เว็บไซต์บุคคลที่สาม

เว็บไซต์ของเรามีไฮเปอร์ลิงก์ไปยังเว็บไซต์และรายละเอียดของเว็บไซต์บุคคลที่สาม เราไม่สามารถควบคุมและไม่รับผิดชอบต่อนโยบายความเป็นส่วนตัวและการปฏิบัติของบุคคลที่สาม

ฏ. การแก้ไขข้อมูล

โปรดแจ้งให้เราทราบหากข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บไว้เกี่ยวกับคุณจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขหรือปรับปรุง

ฐ. คุกกี้

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ คุกกี้คือไฟล์ที่มีตัวระบุตัวตน (เป็นข้อความที่ประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลข) ที่เว็บเซิร์ฟเวอร์ส่งไปยังเว็บเบราว์เซอร์และถูกเก็บไว้โดยเบราว์เซอร์ จากนั้นตัวระบุนี้จะถูกส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ทุกครั้งที่เบราว์เซอร์ร้องขอหน้าเว็บจากเซิร์ฟเวอร์
คุกกี้อาจเป็นคุกกี้ “ถาวร” (persistent cookies) หรือคุกกี้ “ชั่วคราว” (session cookies) โดยคุกกี้ถาวรจะถูกเก็บไว้บนเว็บเบราว์เซอร์และจะยังคงใช้งานได้จนกว่าจะถึงวันหมดอายุที่กำหนด เว้นแต่ผู้ใช้จะลบก่อนวันหมดอายุ ส่วนคุกกี้ชั่วคราวจะหมดอายุเมื่อสิ้นสุดรอบการใช้งานของผู้ใช้ ซึ่งก็คือเมื่อผู้ใช้ปิดเบราว์เซอร์ลง โดยทั่วไปแล้วคุกกี้จะไม่มีข้อมูลใด ๆ ที่ระบุตัวตนของผู้ใช้ แต่ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราจัดเก็บเกี่ยวกับคุณอาจเชื่อมโยงกับข้อมูลที่เก็บไว้ในและได้รับจากคุกกี้ {เลือกวลีที่ถูกต้อง เราใช้เฉพาะคุกกี้ชั่วคราว / คุกกี้ถาวรเท่านั้น / ทั้งคุกกี้ชั่วคราวและคุกกี้ถาวรบนเว็บไซต์ของเรา}
  1. ชื่อของคุกกี้ที่เราใช้บนเว็บไซต์ของเราและวัตถุประสงค์ที่ใช้นั้นระบุไว้ด้านล่าง:
    1. เราใช้ Google Analytics และ Adwords บนเว็บไซต์ของเราเพื่อจดจำคอมพิวเตอร์เมื่อผู้ใช้งาน {ใส่การใช้งานทั้งหมดที่มีการใช้งานคุกกี้บนเว็บไซต์ของคุณ เข้าชมเว็บไซต์ / ติดตามผู้ใช้ในขณะที่พวกเขาดูเว็บไซต์ / เปิดใช้ตะกร้าสินค้าบนเว็บไซต์ / ปรับปรุงการใช้งานของเว็บไซต์ / วิเคราะห์การใช้เว็บไซต์ / ดูแลเว็บไซต์ / ป้องกันการฉ้อโกงและปรับปรุงความปลอดภัยของเว็บไซต์ / ปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสำหรับผู้ใช้แต่ละราย / โฆษณาแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมายซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานบางคนโดยเฉพาะ / อธิบายวัตถุประสงค์}
  2. เบราว์เซอร์ส่วนใหญ่อนุญาตให้คุณปฏิเสธที่จะยอมรับคุกกี้ – ตัวอย่างเช่น
    1. สำหรับ Internet Explorer (รุ่น 10) คุณสามารถปิดกั้นคุกกี้โดยใช้การตั้งค่าแทนที่การจัดการคุกกี้โดยคลิกที่ “เครื่องมือ” “ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต” “ความเป็นส่วนตัว” และจากนั้น “ขั้นสูง”
    2. สำหรับ Firefox (เวอร์ชั่น 24) คุณสามารถปิดกั้นคุกกี้ทั้งหมดโดยคลิก “เครื่องมือ” “ ตัวเลือก” “ ความเป็นส่วนตัว” เลือก “ใช้การตั้งค่าที่กำหนดเองสำหรับประวัติ” จากเมนูแบบเลื่อนลงและยกเลิกการเลือก “ยอมรับคุกกี้จากเว็บไซต์” และ
    3. สำหรับ Chrome (รุ่น 29) คุณสามารถปิดกั้นคุกกี้ทั้งหมดได้โดยเข้าไปที่เมนู “ปรับแต่งและควบคุม” และคลิก “การตั้งค่า” “แสดงการตั้งค่าขั้นสูง” และ “การตั้งค่าเนื้อหา” จากนั้นเลือก “ปิดกั้นเว็บไซต์จากการตั้งค่าข้อมูลใด ๆ ” ภายใต้หัวข้อ “คุกกี้”
การปิดกั้นคุกกี้ทั้งหมดจะมีผลเสียต่อการใช้งานของเว็บไซต์หลายเว็บ หากคุณปิดกั้นคุกกี้ คุณจะไม่สามารถใช้คุณสมบัติทั้งหมดบนเว็บไซต์ของเรา

  1. คุณสามารถลบคุกกี้ที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณอยู่แล้วได้ ตัวอย่างเช่น
    1. สำหรับ Internet Explorer (รุ่น 10) คุณต้องลบไฟล์คุกกี้ด้วยตนเอง (คุณสามารถค้นหาวิธีการทำได้ได้ที่ http://support.microsoft.com/kb/278835);
    2. สำหรับ Firefox (รุ่น 24) คุณสามารถลบคุกกี้ได้โดยคลิก “เครื่องมือ” “ ตัวเลือก” และ “ความเป็นส่วนตัว” จากนั้นเลือก “ใช้การตั้งค่าที่กำหนดเองสำหรับประวัติ” คลิก“ แสดงคุกกี้” จากนั้นคลิก“ ลบคุกกี้ทั้งหมด” และ
    3. สำหรับ Chrome (รุ่น 29) คุณสามารถลบคุกกี้ทั้งหมดโดยเข้าไปที่เมนู “ปรับแต่งและควบคุม” และคลิก “การตั้งค่า” “แสดงการตั้งค่าขั้นสูง” และ “ล้างข้อมูลการเข้าเว็บ” จากนั้นเลือก “ลบคุกกี้และเว็บไซต์อื่น ๆ และข้อมูลแบบปลั๊กอิน” ก่อนที่จะคลิก “ล้างข้อมูลการเข้าเว็บ”
  2. การลบคุกกี้จะส่งผลเสียต่อการใช้งานเว็บไซต์หลายเว็บ
Website Planet ไม่มีส่วนรับผิดชอบและแนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหากคุณใช้งานเทมเพลตด้านบนสำหรับเว็บไซต์ของคุณ

GDPR คืออะไร

The General Data Protection Regulation (GDPR) เป็นชุดของกฎหมายที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองสหภาพยุโรป (EU) สภาสหภาพยุโรป รัฐสภายุโรปและคณะกรรมาธิการยุโรปร่วมมือเพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ดีมากขึ้น

ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐสภายุโรปในปี 2016 สหภาพยุโรปอนุญาตให้ บริษัทและองค์กรสามารถละเว้นปฏิบัติตามข้อกำหนดใหม่ได้สองปี ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2018 ธุรกิจที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายใหม่ของ GDPR จะถือว่าผิดกฏหมาย

ใครได้รับผลกระทบจาก GDPR

ธุรกิจที่ดำเนินงานภายในสหภาพยุโรปและ บริษัทที่ทำธุรกิจหรือหวังจะทำธุรกิจกับพลเมืองของสหภาพยุโรปจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ แม้ว่าบริษัทที่อยู่นอกสหภาพยุโรปจะได้รับผลกระทบหากมีการนำเสนอสินค้าหรือบริการแก่พลเมืองของสหภาพยุโรปและทุกคนที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองของสหภาพยุโรปจะถูกลงโทษหลังจากวันที่ 25 พฤษภาคม 2018

ข้อมูลประเภทใดที่อยู่ภายใต้การควบคุม GDPR

ข้อมูลใดๆ ที่จัดเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถใช้เพื่อระบุพลเมืองของสหภาพยุโรปได้รับความคุ้มครองโดย GDPR และรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้:
  • ชื่อ
  • รูปภาพ
  • อีเมล์
  • โพสต์บนเครือข่ายสังคม
  • ข้อมูลส่วนบุคคล
  • IP addresses
  • รายละเอียดธนาคาร
ผู้เยาว์ไม่อนุญาตให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนอย่างถูกกฎหมาย ดังนั้นพ่อแม่หรือผู้ปกครองเด็กอายุ 16 ปีขึ้นไปต้องให้การอนุญาตก่อนที่บริษัทจะสามารถใช้ข้อมูลของผู้เยาว์ได้

ทำไมบริษัทควรปฏิบัติตาม GDPR

ธุรกิจใด ๆ ที่ไม่ปฏิบัติตาม  GDPR ภายในวันที่ 25 พฤษภาคมจะต้องได้รับการปรับค่าปรับโดยสหภาพยุโรปสูงสุดถึง 4% หรือ 20 ล้านยูโรของรายได้ทั่วโลกแล้วแต่จำนวนใดจะสูงที่สุด และมีบทลงโทษเพิ่มเติมหากมีการฝ่าฝืน

สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือบริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายใหม่นี้จะสูญเสียความน่าเชื่อถือในตลาดอย่างมาก  กล่าวอีกนัยหนึ่งการปฏิบัติตามกฎหมายของ GDPR ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของบริษัทและผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท เมื่อคนรู้สึกปลอดภัยพวกเขาก็เต็มใจที่จะทำธุรกิจกับองค์กร การปฏิบัติตาม GDPR ไม่ใช่แค่กฎหมายเท่านั้นแต่เป็นธุรกิจที่ดี

จะเกิดอะไรขึ้นหากมีการละเมิดข้อมูล

หากมีการละเมิดข้อมูลซึ่งเมื่อบุคคลภายนอกเข้าใช้ข้อมูลของบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต GDPR กำหนดให้ บริษัทต้องแจ้งหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลที่เหมาะสมภายใน 72 ชั่วโมง บริษัทจะต้องแจ้งบุคคลที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าเป้าหมายหลักของ GDPR คือการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้

นโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่จะมีลักษณะอย่างไร

ตอนนี้คุณเข้าใจเหตุผลของกฎหมายและพื้นฐานบางส่วนของกฎหมายแล้ว ต่อไปนี้คือหลักเกณฑ์บางส่วนในการเขียนนโยบายส่วนบุคคลของคุณในรูปแบบที่สอดคล้องกับ GDPR:
  1. ตรวจสอบว่านโยบายสั้นและกระชับ นโยบายความเป็นส่วนตัวต้องมีองค์ประกอบพื้นฐานสามอย่าง คือต้องมีความกระชับและเข้าถึงได้ง่าย ต้องเขียนด้วยภาษาธรรมดาที่เด็กจะเข้าใจได้ และจะต้องไม่มีค่าใช้จ่าย
  2. อธิบายการใช้ข้อมูลของคุณ อธิบายสิ่งที่คุณจะทำอย่างไรกับข้อมูลเมื่อคุณรวบรวมข้อมูล ตัวอย่างเช่นระบุว่าคุณจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดหรือขายให้กับบุคคลที่สาม
  3. อธิบายการใช้คุกกี้ของคุณ หากคุณใช้คุกกี้สำหรับการโฆษณาพฤติกรรมออนไลน์ซึ่งติดตามความสนใจของผู้เข้าชมและพฤติกรรมออนไลน์คุณจะต้องแจ้งให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ทราบ
  4. การแชร์ข้อมูลกับบุคคลที่สามจะต้องโปร่งใส ระบุอย่างชัดเจนว่าคุณจะแบ่งปันข้อมูลที่คุณรวบรวมและเพื่อวัตถุประสงค์อะไรบ้าง แม้ว่าในกฎหมายจะกล่าวถึงการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผู้สอบบัญชีเครือข่ายสังคมและผู้ให้บริการลูกค้าและอื่นๆ การไม่แจ้งผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
  5. อธิบายถึงสิทธิของแต่ละบุคคล คุณต้องอธิบายถึงสิทธิส่วนบุคคลที่ผู้เข้าชมของคุณมี สิทธิของพวกเขารวมถึงสิ่งต่อไปนี้:
  • พวกเขาสามารถขอให้ลบข้อมูลหรือแก้ไขได้
  • พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลที่บริษัทมีเกี่ยวกับพวกเขาได้
  • พวกเขาสามารถขอให้ถ่ายโอนข้อมูลไปยังอีกฝ่ายหนึ่งได้
  • พวกเขาต้องให้ความยินยอมในการใช้ข้อมูลของตน
อ่านบทความนี้
4.6 ได้รับการโหวตให้คะแนนโดย 32 ผู้ใช้
คุณลงคะแนนแล้ว! ย้อนกลับ
ต้องระบุข้อมูลในฟิลด์นี้ Maximal length of comment is equal 80000 chars ความยาวน้อยที่สุดของความคิดเห็นเท่ากับ 10 ตัวอักษร
มีความคิดเห็นอย่างไร
ตอบกลับ
ดูการตอบกลับของ %s
View %s reply
โพสต์ที่เกี่ยวข้อง
เราตรวจสอบความคิดเห็นของผู้ใช้ทั้งหมดภายใน 48 ชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่ามาจากผู้ใช้จริงเช่นคุณ เราดีใจที่คุณพบว่าบทความนี้มีประโยชน์ - เราจะขอบคุณถ้าคุณแบ่งปันให้คนอื่นรู้เกี่ยวกับมัน
Popup final window
แบ่งปันโพสต์บล็อกนี้กับเพื่อนและเพื่อนร่วมงานในตอนนี้:

We check all comments within 48 hours to make sure they're from real users like you. In the meantime, you can share your comment with others to let more people know what you think.

คุณจะได้รับเคล็ดลับและคำแนะนำที่น่าสนใจฬในเชิงลึกเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณและบรรลุเป้าหมายการตลาดดิจิทัลของคุณ!

เราดีใจมากที่คุณ ��อบ

แบ่งปันให้กับเพื่อนของคุณ!

1 1 1

หรือรีวิวพวกเราได้บน 1

162821
50
5000
3382