พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและข้อตกลงเชิงพาณิชย์ของเรากับผู้ให้บริการด้วย หน้านี้มีลิงก์ affiliate การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา
  1. Website Planet
  2. >
  3. บล็อก
  4. >
  5. 6 ระบบการจัดการเนื้อหาที่ดีที่สุดปี 2024

6 ระบบการจัดการเนื้อหาที่ดีที่สุดปี 2024

เอมมา อารีส์ ถูกเขียนขึ้นโดย:
14 พฤศจิกายน 2024
เนื้อหาเป็นส่วนสำคัญในการเล่าเรื่องราวแบรนด์ของคุณ – และระบบการจัดการเนื้อหา (CMS) ก็เป็นระบบที่ดีที่สุดในการทำให้คนบนโลกได้เห็นเนื้อหาของคุณ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่า CMS ทั้งหมดจะเหมาะสมสำหรับคุณ

การเลือก CMS สำหรับเว็บไซต์ผิดนั้นไม่ได้จะทำให้โลกสูญสิ้น – เพราะส่วนใหญ่แล้วมันถูกออกแบบมาให้ทำการส่งออกเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย – แต่การเปลี่ยนแพลตฟอร์มบ่อย จนกว่าที่คุณจะเจอ CMS ที่คุณชื่นชอบนั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายและเสียเวลา

ปัจจุบันนั้นมีแพลตฟอร์ม CMS ให้เลือกมากมาย ตั้งแต่รูปแบบที่มีความยืดหยุ่นสูงแบบ self-hosted ไปยังแบบออลอินวันสำหรับเว็บไซต์ การเลือกสิ่งที่ใช่สำหรับคุณนั้นเลยเริ่มกลายเป็นเรื่องยาก เพราะแบบนั้น เราถึงได้ทำการทดสอบแพลตฟอร์ม CMS มามากมายเพื่อแนะนำตัวเลือกที่ดีที่สุดให้กับคุณ

แพลตฟอร์ม CMS เหล่านี้ต่างก็มีความสามารถในการสร้างบล็อกที่เยี่ยม มีเทมเพลตทันสมัยมากมาย มีความยืดหยุ่น มากกว่าเครื่องมือสร้างเว็บไซต์มาตรฐานทั่วไป และก็มาพร้อมกับเครื่องมือ SEO อันยอดเยี่ยมเพื่อช่วยคุณสร้างแบรนด์ของตัวเอง

ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม? นี่คือระบบการจัดการเนื้อหาที่ดีที่สุดปี 2024:

  1. WordPress.org – CMS ที่มีความยืดหยุ่นสูง ฟีเจอร์ทำบล็อกเยี่ยม และมีปลั๊กอินมากมาย
  2. Joomla! – CMS ขั้นสูงที่เหมาะมาก ๆ สำหรับนักพัฒนาและนักออกแบบเว็บไซต์
  3. Squarespace – CMS แบบออลอินวันไม่ต้องเขียนโค้ดซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับมือใหม่

ดูตัวเลือกดี ๆ อีก 3 ตัวเลือก | ตารางเปรียบเทียบ
| คำถามที่พบบ่อย

สิ่งที่เรามองหาในระบบการจัดการเนื้อหาที่ดีที่สุด

ไม่ว่าคุณต้องการจะสร้างเว็บไซต์ประเภทไหนก็ตาม แพลตฟอร์ม CMS ของคุณจะต้องมีฟีเจอร์สำคัญต่าง ๆ เหล่านี้คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญที่สุดสำหรับคุณและเว็บไซต์ของคุณ:
  • ตัวเลือกปรับแต่งที่ดี CMS ที่ดีจะต้องทำให้การสร้างเว็บไซต์ที่ไม่เหมือนใครนั้นเป็นเรื่องง่ายด้วยการใช้เทมเพลตที่มีความยืดหยุ่น ซึ่งเปิดให้คุณสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้เกือบทุกองค์ประกอบ
  • ใช้งานง่าย CMS ทั้งหมดในรายการของเรานั้นมีแดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย และก็ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเป็นสำหรับการสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานได้เต็มรูปแบบ หรือเว็บไซต์ที่สวยงามไม่เหมือนใคร – เพื่อให้คุณมีเวลาไปโฟกัสเรื่องธุรกิจ แทนที่จะมานั่งงมอยู่กับ HTML tags
  • แอปพลิเคชันและส่วนขยาย แอปพลิเคชันที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านอีคอมเมิร์ซ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของ SEO บนเว็บไซต์ จะทำให้เว็บไซต์ของคุณได้เปรียบ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีให้ทุกฟีเจอร์สำหรับทุกเว็บไซต์ ดังนั้นความสามารถในการติดตั้งส่วนขยายถึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ CMS
  • ฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับนักพัฒนา CMS ทั้งหมดในรายการของเรานี้จะเปิดให้คุณสามารถเพิ่มโค้ดที่กำหนดค่าเองได้ – หรือจ้างคนมาทำแทนก็ได้ – ดังนั้นคุณจะสามารถสร้างเว็บไซต์ที่ปรับแต่งได้อย่างเต็มรูปแบบตามความต้องการ มันควรจะมีความสามารถในการเพิ่มโค้ดที่ปรับแต่งเองเผื่อคุณต้องการฟังก์ชันหรือดีไซน์เฉพาะแบบใด ๆ
  • มีช่องทางสนับสนุนออนไลน์ ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นนอกเวลาทำงานปกติ ก็ควรมีความช่วยเหลือที่เตรียมพร้อมให้บริการคุณเพื่อแก้ปัญหานั้น – ไม่ว่าจะเป็นทางไลฟ์แชท อีเมล โทรศัพท์ หรือฐานข้อมูลที่มีเนื้อหาครอบคลุม

Wordpress.org's theme library
WordPress.org มีธีมให้เลือกเป็นพัน ทั้งฟรีและแบบที่ต้องจ่ายเงิน
WordPress.org เป็น CMS แบบโอเพนซอร์ซยอดนิยมที่มีคนใช้มากมายทั่วโลก ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันถูกใช้สร้างเว็บไซต์ถึง 40% บนอินเทอร์เน็ตทั้งหมด เพราะว่ามันเปิดให้คุณสามารถควบคุมเว็บไซต์ของตัวเองได้อย่างเต็มรูปแบบ ถึงแม้ว่าคุณจะเขียนโค้ดไม่เป็นก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นบล็อกอันเรียบง่ายไปจนกระทั่งเว็บอีคอมเมิร์ซอันซับซ้อน WordPress.org ก็รองรับได้ทั้งหมด

มันมีความยืดหยุ่นสูงมาก ซึ่งก็หมายความว่า WordPress.org นั้นอาจเป็นเรื่องที่ดูน่ากลัวสำหรับมือใหม่ – โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะว่าคุณต้องตั้งค่าชื่อโดเมน การโฮสติ้ง การสำรองข้อมูล และก็ความปลอดภัยด้วยตนเอง แต่ถ้าคุณพร้อมที่จะเรียนรู้ คุณก็จะได้รับประโยชน์จากความสามารถในการสร้างเว็บไซต์แบบเกือบไม่รู้จบของ WordPress.org อย่างแน่นอน

ในขณะที่ block editor ความสามารถด้าน SEO และฟีเจอร์ความปลอดภัยแบบบิ้วท์อินนั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก คุณยังสามารถเพิ่มความสามารถรอบด้านได้ด้วยปลั๊กอินเป็นพัน ทั้งแบบฟรีและจ่ายเงิน คุณไม่ต้องเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมเลยในการที่จะใช้ปลั๊กอิน ซึ่งนี่ก็ทำให้ WordPress.org นั้นเป็นแพลตฟอร์ม CMS ที่ครอบคลุมที่สุด

เวลาที่คุณเลือกโฮสสำหรับ WordPress.org เราก็อยากแนะนำให้เลือกใช้ Hostinger1 คุณสามารถติดตั้ง WordPress ผ่านแผงควบคุมของมันได้ในเพียงแค่ไม่กี่คลิก นอกจากนี้ Hostinger ยังจะช่วยอัปเดตเว็บไซต์ของคุณพร้อมทั้งทำการสำรองข้อมูลให้อย่างอัตโนมัติ และถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ คุณก็สามารถไว้วางใจฝ่ายให้บริการลูกค้า 24/7 ได้
1
Hostinger-logo-primary

ประหยัดสูงสุด 75 % เมื่อซื้อบริการกับ Hostinger!

ข้อเสนอมีเวลาจำกัด - อย่าพลาด!

13654 ผู้ใช้ที่ใช้คูปองนี้

ฟีเจอร์

  • ใช้งานได้ฟรี WordPress.org เป็น CMS ฟรีที่มีทีมงานจิตอาสาเป็นผู้ดูแล ดังนั้นฟีเจอร์สำคัญ ๆ ทั้งหมดจึงเปิดให้บริการฟรี ถึงแม้จะมีบางธีมและปลั๊กอินที่ต้องเสียเงิน แต่คุณก็ไม่ได้จำเป็นต้องเลือกใช้มันเพื่อที่จะใช้ประโยชน์จาก CMS นี้ให้ได้มากที่สุด
  • ฟีเจอร์ทำบล็อกอันยอดเยี่ยม WordPress.org มี editor สำหรับข้อความแบบเป็น block ใหม่ ซึ่งใช้งานง่ายและเป็นมิตรต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ นอกจากนี้มันยังมีฟีเจอร์ SEO ที่บิ้วท์อินมาด้วยสำหรับใช้ tag กับจัดหมวดหมู่โพสต์และเพจของคุณเพื่อให้ search engine รวบรวมข้อมูลคอนเทนต์ของคุณได้ง่าย
  • ความยืดหยุ่นด้านการโฮสติ้งและโดเมน เนื่องจาก WordPress.org เป็น CMS แบบ self-hosted คุณจึงสามารถเลือกผู้ให้บริการจดทะเบียนโฮสติ้งและ/หรือโดเมนได้ตามที่คุณต้องการ นี่จะเป็นการเพิ่มความซับซ้อนในการตั้งค่า WordPress.org เล็กน้อย แต่มันหมายความว่าคุณสามารถเลือกบริการที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณได้
  • ตัวเลือกขั้นสูงสำหรับนักพัฒนา หากคุณต้องการขยายความสามารถของ WordPress.org ยิ่งขึ้นไปอีก มันก็ยังมีฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนามากมาย แถมยังมีสอนให้คุณสร้างธีมและปลั๊กอินของคุณเองด้วย
UI มีภาษาไทยไหม มี
โฮสติ้ง Self-hosted
แอปพลิเคชันและส่วนขยาย ปลั๊กอินฟรีและจ่ายเงินรวมถึง 59,000 ปลั๊กอิน
ฝ่ายให้บริการลูกค้า เว็บบอร์ดสนับสนุน เอกสารสนับสนุน การนัดเจอ และเวิร์คช็อป

Joomla!'s extensions library
คุณสามารถเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานของ Joomla! ได้ด้วยส่วนขยายต่าง ๆ มากมาย
ถ้าคุณมีประสบการณ์ในการสร้างเว็บอยู่แล้ว Joomla! นั้นจะเป็น CMS แบบโอเพนซอร์ซที่น่าสนใจมากสำหรับคุณ CMS นี้จะมีเทมเพลตที่บิ้วท์อินมาแค่สองแบบ ดังนั้นคุณจะต้องซื้อเทมเพลตจากบุคคลที่สาม ไม่ก็สร้างเทมเพลตเองถึงจะสร้างเว็บไซต์ที่ปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ

Joomla! เปิดให้ใช้งานได้ฟรี แต่เนื่องจากมันมีรูปแบบ self-hosted คุณจะต้องจัดการเรื่องโฮสติ้งและจดทะเบียนโดเมนเอง ถ้าคุณมีงบประมาณจำกัด การเลือกผู้จดทะเบียนโดเมนและโฮสเอง ก็จะช่วยคุณประหยัดได้

Joomla! มีเครื่องมือพัฒนาขั้นสูงที่ยอดเยี่ยมมาก มันมีไกด์ไลน์การเขียนโค้ดที่ครอบคลุม มีเอกสารสำหรับนักพัฒนามากมาย และ Joomla! แบบที่เป็นอิสระ Framework สำหรับสร้างแอปพลิเคชัน PHP

เราอยากจะแนะนำ ScalaHosting1 ถ้าคุณกำลังคิดจะสร้างเว็บไซต์ด้วย Joomla! แพลนโฮสติ้ง VPS อันทรงพลังของมันมาพร้อมกับ SPanel – คล้าย cPanel แต่เป็นแบบที่พัฒนาขึ้นเอง (แบบหลังนี้จะรองรับภาษาไทยด้วย) – ซึ่งจะช่วยให้คุณบริหารจัดการทรัพยากรโฮสติ้งได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้คุณยังสามารถขอรับบริการสนับสนุนได้ 24/7 ผ่านทางไลฟ์แชท อีเมล ทิคเก็ต โทรศัพท์ และฐานข้อมูล
1
ScalaHosting_logo

ประหยัดสูงสุด 79 % เมื่อซื้อบริการกับ ScalaHosting!

ข้อเสนอมีเวลาจำกัด - อย่าพลาด!

173 ผู้ใช้ที่ใช้คูปองนี้

ฟีเจอร์

  • ซอฟต์แวร์ CMS แบบโอเพนซอร์ซ ด้วยเอกสารสำหรับนักพัฒนา มาตรฐานการเขียนโค้ด และ framework ของ Joomla! ทำให้นักพัฒนาสามารถมีส่วนช่วย Joomla! ได้อย่างง่ายดาย ผ่านการสร้างส่วนขยายที่พวกเขาต้องการ
  • อุปกรณ์จัดการเนื้อหาที่ดีมาก Joomla! นั้นจะรองรับ ข้อมูลอภิพันธุ์ คีย์เวิร์ด และการทำ URL optimization อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงยังมีการตั้งเวอร์ชั่นของเนื้อหาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่เผลอทำให้งานที่คุณลงแรงกายแรงใจอย่างหนักสูญหายไป ในกรณีที่คุณต้องทำการ roll back หรืออัปเดตเว็บไซต์
  • แพ็คแปลภาษาถึง 70+ ภาษา สร้างเว็บไซต์ที่รองรับได้หลายภาษาซึ่งจะเปลี่ยนไปใช้ภาษาตามเบราว์เซอร์ของผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ นี่จะช่วยให้คนเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • เครื่องมือแก้ไขและเผยแพร่คอนเทนต์ ใช้ text editor ที่บิ้วท์อินมาเพื่อเขียนบทความโดยไม่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีเขียนโค้ด คุณยังสามารถตั้งเวลาบทความ บริหารจัดการอัปโหลดสื่อ จัดบทความของคุณลงตามหมวดหมู่ และช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาเนื้อหาตาม tag ได้
UI มีภาษาไทยไหม มี
โฮสติ้ง Self-hosted
แอปพลิเคชันและส่วนขยาย ส่วนขยายของบุคคลที่สามเป็นพัน ๆ ทั้งฟรีและเสียเงิน
ฝ่ายให้บริการลูกค้า เอกสารที่ครอบคลุม วิดีโอสอนเปิดให้ดูฟรี และเว็บบอร์ดชุมชนขนาดใหญ่

Squarespace template library
Squarespace มีเทมเพลตแบบปรับแต่งได้ที่เป็นมิตรต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่กว่า 100+ แบบ
Squarespace ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ แต่มันยังเป็น CMS แบบออลอินวันที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีแพลนระดับฟรีเหมือนแพลตฟอร์ม CMS อื่น ๆ แต่ราคาของมันก็สมเหตุสมผลมาก เนื่องจากมันจะช่วยดูแลเรื่องการโฮสติ้งและการจดทะเบียนโดเมนสำหรับเว็บไซต์ของคุณให้ด้วย นี่ทำให้ Squarespace เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับมือใหม่หรือใครก็ตามที่ต้องการสร้างเว็บไซต์อย่างไม่ยุ่งยาก

ฟีเจอร์เขียนบล็อก ของ Squarespace นั้นก็น่าอัศจรรย์ใจมาก1 คุณสามารถเปลี่ยนแบบอักษรสำหรับแต่ละโพสต์ได้ สามารถตั้งค่าโพสต์ให้ผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ตรวจทานก่อนเผยแพร่ได้ และก็สามารถส่งบล็อกโพสต์ออกไปยังรายชื่ออีเมลของคุณตอนที่คุณเผยแพร่มันได้ด้วย

คุณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องการเขียนโค้ดเลยสำหรับการใช้งาน Squarespace คุณสามารถจัดการเว็บไซต์ของคุณได้ด้วย block editor แบบลากวาง แต่มีข้อเสียใหญ่อยู่ข้อหนึ่ง – เรื่องของดีไซน์ เรียกว่าไม่ใกล้เคียงกับ WordPress หรือ Joomla! เลยสักนิด อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีทำให้เว็บไซต์ของคุณดูไม่เหมือนใครได้อีกหลายทาง

1
squarespace-logo-alt-2-1

ประหยัดมากถึง 36 % จากแผนการใช้งานของ SquareSpace ได้เลยวันนี้!

แถมยังได้โดเมนฟรีไปใช้หนึ่งปีอีกด้วย!

1050 ผู้ใช้ที่ใช้คูปองนี้

ฟีเจอร์

  • เครื่องมือ SEO ขั้นสูง ทำการค้นคว้าคีย์เวิร์ดสำหรับเว็บไซต์ของคุณและก็ใช้วิธีการทำ SEO ที่ดีที่สุดตามเช็คลิสต์เพื่อให้คนค้นหาคอนเทนต์ของคุณเจอทางออนไลน์ คุณสามารถใช้ Squarespace ร่วมกับ Google Search Console ได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้เข้าใจว่าคีย์เวิร์ดอะไรที่ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณใช้
  • การตลาดทางอีเมลแบบบิ้วท์อิน การทำแคมเปญอีเมลของ Squarespace จะทำให้คุณสามารถจัดการเรื่องการตลาดทางอีเมลได้โดยที่คุณไม่ต้องคอยเปลี่ยนแท็บอยู่ตลอด ด้วยการส่งอีเมลอัตโนมัติ การวิเคราะห์พื้นฐาน และการบริหารจัดการรายชื่อติดต่ออันง่ายดาย ฟีเจอร์นี้ทำให้การตลาดทางอีเมลของคุณกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเว็บไซต์ของคุณ
  • การบูรณาการบิ้วท์อินนับร้อย คุณสามารถเชื่อมต่อ Squarespace เข้ากับบัญชีโซเชียลมีเดียของคุณ บริการชำระเงิน และแพลตฟอร์ม affiliate market ได้อย่างง่ายดาย คุณยังสามารถดาวน์โหลดส่วนขยายทั้งฟรีและเสียเงินซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังบริการของบุคคลที่สามได้ด้วย
  • คอนเทนต์สำหรับสมาชิกเท่านั้น ทำเงินจากบล็อก วิดีโอ หรือเนื้อหาอื่น ๆ ของคุณ ด้วยพื้นที่จำกัดสำหรับสมาชิกบน Squarespace คุณยังสามารถเชื่อมต่อฟีเจอร์นี้ไปยังฟีเจอร์การตลาดทางอีเมลของ Squarespace เพื่ออัปเดตรายการสมาชิกโดยอัตโนมัติได้อีกด้วย
อ่านรีวิวฉบับครอบคลุมเกี่ยวกับ Squarespace เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
UI มีภาษาไทยไหม ไม่มี
โฮสติ้ง ถูกรวมอยู่ในแพลนของ Squarespace แล้ว
แอปพลิเคชันและส่วนขยาย การบูรณาการแบบบิ้วท์อินหลายร้อยให้เลือก พร้อมส่วนขยายมากมายทั้งฟรีและต้องจ่ายเงิน
ฝ่ายให้บริการลูกค้า ไลฟ์แชท อีเมล เว็บบอร์ดสนับสนุน วิดีโอสอน สัมมนาทางเว็บ และฐานข้อมูล

Drupal, The Business Responsive Theme
ธีม The Business Responsive เป็นเพียงหนึ่งใน 3,000+ ธีมที่ Drupal มีให้เลือกใช้
Drupal อาจจะเป็น CMS ขั้นสูงที่สุดเท่าที่มีในปัจจุบัน และมันไม่ใช่สิ่งที่เราอยากจะแนะนำให้กับมือใหม่พึ่งหัดสร้างเว็บไซต์ หรือไม่มีงบที่จะจ้างนักพัฒนาให้มาบริหารจัดการให้คุณ ถึงแม้ว่ามันจะมีเอกสารที่ครอบคลุมเป็นอย่างมาก แต่มันไม่เหมาะสำหรับคนใจอ่อน

Drupal นั้นเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับเว็บไซต์ที่มีข้อมูลเยอะ CMS นี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ทำธุรกิจโดยเฉพาะ ดังนั้น framework พื้นฐานจึงสามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยความเร็วสูงได้ ช่างภาพ สตูดิโอถ่ายทำ โปรดิวเซอร์ และศิลปินด้านสื่อทัศน์อื่น ๆ จะได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้เป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาจะไม่ต้องมาคอยกังวลกับเรื่องความช้าในการโหลดเลย

Drupal นั้นยังมีส่วนขยาย (หรือโมดูล) ให้ใช้ฟรีถึง 48,000 ตัวเลือก สำหรับการเพิ่มฟังก์ชันใช้งาน คุณสามารถใช้มันเพิ่ม Google Analytics เข้าไปในเว็บไซต์ของคุณ ใช้จัดการข้อมูลสำรอง ใช้สร้างไซต์แมพ และอื่น ๆ ถึงแม้ว่าฟีเจอร์เหล่านี้จะเป็นสิ่งที่แพลตฟอร์ม CMS ทั่วไปต่างก็มีให้อยู่แล้วนั้น การที่มันถูกเปิดเป็นตัวเลือกให้ดาวน์โหลดเพิ่มได้ก็เป็นประโยชน์ด้านความยืดหยุ่นเช่นกัน

Drupal เป็น CMS แบบ self-hosted ที่อาจต้องการทรัพยากรสูงในบางกรณี ดังนั้นคุณต้องหาโฮสที่ทรงพลังพอสำหรับเว็บไซต์ของคุณ เราแนะนำให้ใช้ Kamatera1 – มันเป็นบริการโฮสติ้งแบบ cloud ซึ่งมีไฟร์วอลล์ขั้นสูงและมีความสามารถในการปรับระดับความต้องการทรัพยากรของคุณขึ้นหรือลงได้อัตโนมัติ

ฟีเจอร์

  • CMS แบบโอเพนซอร์ซ Drupal นั้นมีผู้อาสาให้ความช่วยเหลือเป็นร้อยที่ช่วยสร้างแอปพลิเคชันหลัก ส่วนขยาย และธีม รวมถึงแก้บัค มีคู่มือสำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือให้ดูได้อย่างครอบคลุม ถ้าคุณได้พัฒนาอะไรบางอย่างสำหรับเว็บไซต์ของคุณซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อชุมชน
  • ใช้ทรัพยากรน้อยและเร็ว คุณสามารถเลือกติดตั้งโมดูลสำหรับสิ่งที่แพลตฟอร์ม CMS อื่น ๆ ติดตั้งมาให้อยู่แล้วเป็นมาตรฐาน ซึ่งก็หมายความว่าตัว CMS หลักนี้จะโหลดได้เร็วมาก การที่คุณเลือกได้ว่าอยากจะเพิ่มส่วนขยายเฉพาะตอนที่คุณจะใช้งานมันนั้น เป็นการช่วยเลี่ยงความเยอะเกินไปของโซลูชันแบบออลอินวัน
  • เอกสารที่ครอบคลุม หากคุณมีประสบการณ์ด้านการพัฒนา แต่คุณไม่เคยใช้ Drupal มาก่อน CMS นี้ก็มีคู่มือผู้ใช้งาน คู่มือการพัฒนา และวิกิที่รวบรวมโดยชุมชนเพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นได้
  • เทมเพลตเป็นพันให้เลือก CMS นี้มีเทมเพลตให้คุณเลือกใช้ไม่เบื่ออย่างแน่นอน Drupal เองนั้นมีเทมเพลตที่ส่งเข้ามาโดยชุมชนให้เลือกใช้ฟรีถึง 3,000 แบบ ส่วนใหญ่ก็มาพร้อมกับคู่มือและเอกสารในการติดตั้ง บางครั้งถึงขั้นมีข้อมูลติดต่อของผู้พัฒนาเลยด้วย เผื่อกรณีสำหรับที่คุณไปเจอบัคเข้า
UI มีภาษาไทยไหม มี
โฮสติ้ง Self-hosted
แอปพลิเคชันและส่วนขยาย โมดูลฟรี 48,000 โมดูลเพื่อขยายฟังก์ชันของ Drupal
ฝ่ายให้บริการลูกค้า คู่มือสำหรับผู้ใช้งาน เอกสารสำหรับพัฒนาและช่วยเหลือ เว็บบอร์ดสนับสนุน วิกิ marketplace ผู้ให้บริการที่ผ่านการตรวจสอบ กิจกรรมชุมชน

Wordpress.com's theme library
WordPress.com มีธีมให้เลือก 200+ ธีม และการเพิ่มธีมของบุคคลที่สามเข้าไปนั้นก็ง่ายมาก
ให้คิดซะว่า CMS นี้เป็นเหมือน WordPress.org ที่เล็กกว่าและเหมาะกับมือใหม่มากกว่า WordPress.com เปิดให้คุณสามารถจ่ายเงินเพื่อรับบริการโฮสติ้ง ชื่อโดเมน และเครื่องมือความปลอดภัยและอีคอมเมิร์ซได้ ถ้าเป็นแบบ self-hosted คุณต้องไปจัดการเรื่องพวกนี้เอง ดังนั้น WordPress.com จึงมีความยุ่งยากน้อยกว่ามาก

แน่นอนว่านี่ก็จะเป็นการลดความยืดหยุ่นของคุณลงเล็กน้อย แต่ก็แค่ลดมาเหลือเท่ากับ CMS อื่น ๆ ที่ดูแลเรื่องโฮสติ้งให้คุณจนจบ หากคุณไม่เป็นห่วงเรื่องการปรับแต่งประสิทธิภาพให้เหมาะสมสำหรับเว็บไซต์ของคุณ คุณก็จะพบว่า WordPress.com ทำให้การสร้างเว็บไซต์ที่ทรงพลังเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ในฐานะลูกค้าของ WordPress.com คุณก็สามารถหวังพึ่งไลฟ์แชท 24/7 และบริการทางอีเมลได้ กรณีที่คุณเผชิญกับปัญหาเข้า

ฟีเจอร์

  • CMS แบบออลอินวัน WordPress.com จัดการเรื่องทาง back-end ให้คุณทั้งหมด ดังนั้นคุณก็เหมือนได้รับเว็บไซต์แบบ self-hosted โดยที่ไม่ต้องทำอะไรซับซ้อน มันเป็นตัวเลือกที่เยี่ยมยอดมาก ถ้าคุณมีงบลงทุนสำหรับโซลูชันที่ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งอะไร
  • การบูรณาการที่ทรงพลัง คุณสามารถบูรณาการ WordPress.com เข้าได้กับเกือบทุกอย่างที่มี API เนื่องจากมันมีปลั๊กอินให้เลือกเป็นพัน ๆ แต่ปลั๊กอินจะเปิดให้ใช้งานเฉพาะแพลนระดับธุรกิจและสูงกว่าเท่านั้น
  • ความสามารถด้านอีคอมเมิร์ซ ในแพลนระดับธุรกิจและสูงกว่า คุณยังจะสามารถตั้งค่าร้านค้าออนไลน์พร้อมคำนวณภาษีอัตโนมัติ บูรณาการร่วมกับ Stripe และ PayPal คูปอง รีวิวสินค้า และอื่น ๆ และก็ยังมีแพลนอีคอมเมิร์ซซึ่งจะบูรณาการร่วมกับบริการขนส่งอย่าง UPS เพื่อให้ชีวิตคุณง่ายยิ่งขึ้นด้วย
  • สร้างรายได้จากโฆษณา ถ้าคุณใช้แพลนระดับพรีเมียมขึ้นไป คุณจะสามารถใช้โฆษณาแบบบิ้วท์อินเพื่อสร้าง passive income จากเนื้อหาของคุณได้ นี่ทำให้ WordPress.com เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับบล็อกเกอร์และนักสร้างคอนเทนต์หน้าใหม่
อ่านรีวิว WordPress.com จากผู้เชี่ยวชาญของเรา เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับฟีเจอร์เด่น ๆ เพิ่มเติม

UI มีภาษาไทยไหม มี (บางส่วน)
โฮสติ้ง  ถูกรวมอยู่ในแพลนของ WordPress.com แล้ว
แอปพลิเคชันและส่วนขยาย มีปลั๊กอินและส่วนขยายเป็นพัน ๆ สำหรับแพลนระดับธุรกิจขึ้นไป
ฝ่ายให้บริการลูกค้า ไลฟ์แชท 24/7 และอีเมล ฐานข้อมูล สัมมนาทางเว็บและวิดีโอสอนฟรี

6. Shopify – CMS ที่ดีที่สุดสำหรับอีคอมเมิร์ซ1

Shopify's theme library
ธีมของ Shopify ดูเรียบง่ายและดูทันสมัยพร้อมทั้งเป็นมิตรต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่
Shopify เป็น CMS อีคอมเมิร์ซที่มีคนรู้จักมากที่สุด และก็เข้าใจได้ไม่ยากเลยว่าทำไม มันมีฟีเจอร์จัดการร้านค้าอย่างเช่น โค้ดลดราคา การบริหารคงคลัง และมีบริการชำระเงินให้เลือกกว่า 100+ บริการShopify ทำให้การสร้างร้านค้าออนไลน์กลายเป็นเรื่องง่าย  คุณสามารถซิงค์ร้าน Shopify กับ marketplace อีคอมเมิร์ซอื่น ๆ ได้ด้วย ทำให้คุณสามารถควบคุมการขายทั้งหมดของคุณจบในที่เดียว

มันไม่ใช่ตัวเลือก CMS อีคอมเมิร์ซที่มีราคาถูกที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าธุรกิจของคุณยังมีขนาดเล็ก ๆ และคุณขายสินค้าได้ไม่มากในแต่ละเดือน อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณมีธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ประสบความสำเร็จ และคุณกำลังมองหาวิธีเติบโตขั้นถัดไป Shopify ก็คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน

ฟีเจอร์

  • ระบบ Point of sale Shopify มีเครื่องมือ point of sale (POS) ให้คุณเลือกใช้สำหรับการชำระเงิน ติดตามคงคลัง และดูรายงานงบการเงิน คุณยังสามารถใช้ POS ของ Shopify บนสมาร์ทโฟนของคุณได้ด้วย ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
  • แอปพลิเคชันให้เลือกถึง 6,000 ตัว เชื่อมต่อ Shopify เข้ากับการตลาดทางอีเมล ซอฟต์แวร์ทำบัญชี หรือแม้แต่โปรไฟล์โซเชียลมีเดียของคุณเพื่อเติมพลังให้ร้านอีคอมเมิร์ซของคุณ
  • แดชบอร์ดวิเคราะห์แบบบิ้วท์อิน คุณสามารถดูสถิติผู้เยี่ยมชม อัตราการขาย รายได้ และกิจกรรมบนร้านแบบเรียลไทม์ได้อย่างรวดเร็วบนแดชบอร์ด Shopify ของคุณ – ไม่ต้องใช้ปลั๊กอินเสริมใด ๆ
  • ทรัพยากรการเรียนรู้ Shopify มีคอร์สเรียนธุรกิจฟรี มีพอดแคสต์สองช่องทาง และมีกิจกรรมชุมชนในพื้นที่เพื่อช่วยให้คุณสร้างเครือข่ายและเรียนรู้จากผู้ค้ารายอื่น ๆ มีข้อมูลมากมายที่จะช่วยให้คุณขยายกิจการของคุณ
เข้ามาดูว่าคุณจะสร้างเว็บไซต์อันทรงพลังด้วย Shopify ได้อย่างไรในรีวิวแบบเจาะลึกของเรา
UI มีภาษาไทยไหม มี
โฮสติ้ง  ถูกรวมอยู่ในแพลนของ Shopify แล้ว
แอปพลิเคชันและส่วนขยาย แอปพลิเคชันทั้งฟรีและจ่ายเงินกว่า 6,000 ตัว
ฝ่ายให้บริการลูกค้า ไลฟ์แชท 24/7 อีเมล และโทรศัพท์

ระบบการจัดการเนื้อหาไหนที่ใช่สำหรับคุณ?

ตัวเลือกเบอร์หนึ่งของเราคือ WordPress.org มันเปิดให้ใช้งานได้ฟรี มีความยืดหยุ่นทำให้สามารถขยายขนาดเว็บไซต์ของคุณได้ ในกรณีที่ธุรกิจ – หรืองานอดิเรก – ขยายขนาดหรือเปลี่ยนแปลงไป

แถมคุณยังสามารถเลือกโฮสและผู้จดทะเบียนโดเมนได้เอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เยี่ยมมากถ้าคุณมีงบประมาณจำกัด ยกตัวอย่างเช่น Hostinger มีบริการโฮส WordPress ที่ราคาถูกมาก ๆ 1 พร้อมประสิทธิภาพที่ดีมาก ๆ

ถึงจะมีข้อดีมากมายแต่ WordPress.org นั้นก็ไม่ใช่ CMS ที่เป็นมิตรกับมือใหม่สักเท่าไร ดังนั้น ถ้าคุณยังไม่เคยสร้างเว็บไซต์มาก่อนเลย ขอแนะนำให้เลือกดู Squarespace ดีกว่า1 มันเป็นโซลูชันแบบออลอินวัน ดังนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเลย สนใจแค่เรื่องทำเว็บไซต์ออกมาให้ดูสวยก็พอแล้ว

ถ้าคุณมีประสบการณ์ด้านการพัฒนามาแล้ว และกำลังมองหาเครื่องมือขั้นสูงอยู่ เราขอแนะนำ Joomla! มันเป็นอีกหนึ่ง CMS โอเพนซอร์ซฟรี และมันก็มาพร้อมกับเอกสารสำหรับนักพัฒนา คู่มือเขียนโค้ด และ PHP framework มากมายที่จะช่วยคุณสร้างแอปพลิเคชันสำหรับเว็บไซต์ของคุณ

และถ้าคุณกำลังมองหาโฮสที่สมบูรณ์แบบอยู่ล่ะก็ Scala Hosting ก็จะเหมาะมาก ๆ เลยสำหรับเว็บไซต์ของ Joomla! 1 มันมีแพลนแบบคลาวด์ที่ปรับแต่งได้ตามความเหมาะสมในราคาไม่แพง

นี่เป็นการสรุปอย่างย่อเกี่ยวกับระบบการจัดการเนื้อที่ดีที่สุดทั้ง 6 ที่มีในปัจจุบัน

CMS/เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ ฟีเจอร์เด่น
WordPress.org มีจิตอาสาคอยอัปเดต พัฒนา และสร้างปลั๊กอินจำนวนมาก เพื่อช่วยปรับปรุงซอฟต์แวร์
Joomla! เอกสารสำหรับนักพัฒนาและ framework ที่จะทำให้คุณสามารถขยายและปรับแต่ง Joomla! ได้สำหรับเว็บไซต์ทุกชนิด
Squarespace ฟีเจอร์ SEO ขั้นสูงที่บิ้วท์อินมาในตัว อย่างเช่นการค้นคว้าคีย์เวิร์ด การวิเคราะห์เว็บไซต์ และการสร้างไซต์แมพอัตโนมัติ
Drupal แยกส่วนเป็นโมดูล ทำให้มันใช้ทรัพยากรน้อย มีความเร็ว และเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีข้อมูลเยอะ
WordPress.com Block editor ที่เป็นมิตรกับมือใหม่ ทำให้การสร้างเพจและเขียนบล็อกโพสต์เป็นเรื่องง่าย
Shopify ฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซขั้นสูงซึ่งประกอบไปด้วย การบริหารจัดการคงคลัง โค้ดส่วนลด และการบริหารจัดการ marketplace บุคคลที่สาม

คำถามที่พบบ่อย

CMS ไหนที่ดีที่สุด (และเร็วที่สุด) ?

WordPress.org เป็น CMS ที่ดีที่สุดโดยรวม เพราะว่าคุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้เกือบทุกประเภทที่คุณต้องการ CMS หลักนั้นไม่ถูกบีบอัดมาด้วยฟีเจอร์ที่คุณน่าจะไม่ได้ใช้ ดังนั้นเว็บไซต์ของคุณก็จะไม่เกิดการโอเวอร์โหลด ความเร็วนั้นจะขึ้นกับว่าผู้ให้บริการโฮสติ้งของคุณจะรับได้แค่ไหนด้วย – เราอยากจะแนะนำให้เลือกใช้ Hostinger.

CMS ไหนที่เรียนรู้ได้ง่ายที่สุด?

Squarespace เป็น CMS ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมือใหม่ มันมีฝ่ายให้บริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม มี editor เว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย และฟีเจอร์อื่น ๆ ทั้งหมดที่คุณต้องใช้เพื่อเริ่มต้น มันเป็นหนึ่งใน 10 อันดับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ปี 2024 ของเราด้วย!

บริษัทส่วนใหญ่ใช้ CMS ไหน?

WordPress (ทั้งสองรูปแบบ) เป็นสิ่งที่ถูกใช้สร้างเว็บไซต์เกินครึ่งของที่มีอยู่ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่ออีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ แต่มันก็มีปลั๊กอินเยี่ยม ๆ สำหรับอีคอมเมิร์ซที่เทียบเท่าได้กับคู่แข่งอย่าง Shopify นอกจากนี้มันยังมีฟีเจอร์ SEO ที่บิ้วท์อินมามากมายสำหรับรองรับกลยุทธ์ดิจิทัลต่าง ๆ ของธุรกิจ ลองดูหน้าคูปองของเรา เพื่อประหยัดเงินของคุณสำหรับซื้อแพลน WordPress.com

Wix ดีกว่า WordPress ไหม?

นั่นขึ้นกับว่าคุณกำลังมองหาอะไร WordPress.org มีความสามารถสร้างเว็บไซต์ปรับแต่งเองได้มากกว่า ในขณะที่ WordPress.com จะมีความยืดหยุ่นนั้น โดยที่ไม่ต้องจัดการเรื่องโฮสติ้งและชื่อโดเมนเอง อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์อย่าง Wix ก็มีข้อดีอื่น ๆ เช่นกัน อ่านคู่มือการสร้างเว็บไซต์แบบสอนทีละขั้นของเรา เพื่อดูว่าแบบไหนที่เหมาะกับคุณมากกว่ากัน

อ่านบทความนี้
4.7 ได้รับการโหวตให้คะแนนโดย 3 ผู้ใช้
คุณลงคะแนนแล้ว! ย้อนกลับ
ต้องระบุข้อมูลในฟิลด์นี้ Maximal length of comment is equal 80000 chars ความยาวน้อยที่สุดของความคิดเห็นเท่ากับ 10 ตัวอักษร
มีความคิดเห็นอย่างไร
ตอบกลับ
ดูการตอบกลับของ %s
View %s reply
โพสต์ที่เกี่ยวข้อง
แสดงโพสต์ที่เกี่ยวข้องกันเพิ่ม
เราตรวจสอบความคิดเห็นของผู้ใช้ทั้งหมดภายใน 48 ชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่ามาจากผู้ใช้จริงเช่นคุณ เราดีใจที่คุณพบว่าบทความนี้มีประโยชน์ - เราจะขอบคุณถ้าคุณแบ่งปันให้คนอื่นรู้เกี่ยวกับมัน
Popup final window
แบ่งปันโพสต์บล็อกนี้กับเพื่อนและเพื่อนร่วมงานในตอนนี้:

We check all comments within 48 hours to make sure they're from real users like you. In the meantime, you can share your comment with others to let more people know what you think.

คุณจะได้รับเคล็ดลับและคำแนะนำที่น่าสนใจฬในเชิงลึกเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณและบรรลุเป้าหมายการตลาดดิจิทัลของคุณ!

เราดีใจมากที่คุณ ��อบ

แบ่งปันให้กับเพื่อนของคุณ!

1 1 1

หรือรีวิวพวกเราได้บน 1

2866798
50
5000
44113112