ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม? นี่คือระบบการจัดการเนื้อหาที่ดีที่สุดปี 2024:
- WordPress.org – CMS ที่มีความยืดหยุ่นสูง ฟีเจอร์ทำบล็อกเยี่ยม และมีปลั๊กอินมากมาย
- Joomla! – CMS ขั้นสูงที่เหมาะมาก ๆ สำหรับนักพัฒนาและนักออกแบบเว็บไซต์
- Squarespace – CMS แบบออลอินวันไม่ต้องเขียนโค้ดซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับมือใหม่
ดูตัวเลือกดี ๆ อีก 3 ตัวเลือก | ตารางเปรียบเทียบ
| คำถามที่พบบ่อย
สิ่งที่เรามองหาในระบบการจัดการเนื้อหาที่ดีที่สุด
ไม่ว่าคุณต้องการจะสร้างเว็บไซต์ประเภทไหนก็ตาม แพลตฟอร์ม CMS ของคุณจะต้องมีฟีเจอร์สำคัญต่าง ๆ เหล่านี้คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญที่สุดสำหรับคุณและเว็บไซต์ของคุณ:- ตัวเลือกปรับแต่งที่ดี CMS ที่ดีจะต้องทำให้การสร้างเว็บไซต์ที่ไม่เหมือนใครนั้นเป็นเรื่องง่ายด้วยการใช้เทมเพลตที่มีความยืดหยุ่น ซึ่งเปิดให้คุณสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้เกือบทุกองค์ประกอบ
- ใช้งานง่าย CMS ทั้งหมดในรายการของเรานั้นมีแดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย และก็ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเป็นสำหรับการสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานได้เต็มรูปแบบ หรือเว็บไซต์ที่สวยงามไม่เหมือนใคร – เพื่อให้คุณมีเวลาไปโฟกัสเรื่องธุรกิจ แทนที่จะมานั่งงมอยู่กับ HTML tags
- แอปพลิเคชันและส่วนขยาย แอปพลิเคชันที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านอีคอมเมิร์ซ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของ SEO บนเว็บไซต์ จะทำให้เว็บไซต์ของคุณได้เปรียบ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีให้ทุกฟีเจอร์สำหรับทุกเว็บไซต์ ดังนั้นความสามารถในการติดตั้งส่วนขยายถึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ CMS
- ฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับนักพัฒนา CMS ทั้งหมดในรายการของเรานี้จะเปิดให้คุณสามารถเพิ่มโค้ดที่กำหนดค่าเองได้ – หรือจ้างคนมาทำแทนก็ได้ – ดังนั้นคุณจะสามารถสร้างเว็บไซต์ที่ปรับแต่งได้อย่างเต็มรูปแบบตามความต้องการ มันควรจะมีความสามารถในการเพิ่มโค้ดที่ปรับแต่งเองเผื่อคุณต้องการฟังก์ชันหรือดีไซน์เฉพาะแบบใด ๆ
- มีช่องทางสนับสนุนออนไลน์ ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นนอกเวลาทำงานปกติ ก็ควรมีความช่วยเหลือที่เตรียมพร้อมให้บริการคุณเพื่อแก้ปัญหานั้น – ไม่ว่าจะเป็นทางไลฟ์แชท อีเมล โทรศัพท์ หรือฐานข้อมูลที่มีเนื้อหาครอบคลุม
WordPress.org เป็น CMS แบบโอเพนซอร์ซยอดนิยมที่มีคนใช้มากมายทั่วโลก ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันถูกใช้สร้างเว็บไซต์ถึง 40% บนอินเทอร์เน็ตทั้งหมด เพราะว่ามันเปิดให้คุณสามารถควบคุมเว็บไซต์ของตัวเองได้อย่างเต็มรูปแบบ ถึงแม้ว่าคุณจะเขียนโค้ดไม่เป็นก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นบล็อกอันเรียบง่ายไปจนกระทั่งเว็บอีคอมเมิร์ซอันซับซ้อน WordPress.org ก็รองรับได้ทั้งหมด มันมีความยืดหยุ่นสูงมาก ซึ่งก็หมายความว่า WordPress.org นั้นอาจเป็นเรื่องที่ดูน่ากลัวสำหรับมือใหม่ – โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะว่าคุณต้องตั้งค่าชื่อโดเมน การโฮสติ้ง การสำรองข้อมูล และก็ความปลอดภัยด้วยตนเอง แต่ถ้าคุณพร้อมที่จะเรียนรู้ คุณก็จะได้รับประโยชน์จากความสามารถในการสร้างเว็บไซต์แบบเกือบไม่รู้จบของ WordPress.org อย่างแน่นอน ในขณะที่ block editor ความสามารถด้าน SEO และฟีเจอร์ความปลอดภัยแบบบิ้วท์อินนั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก คุณยังสามารถเพิ่มความสามารถรอบด้านได้ด้วยปลั๊กอินเป็นพัน ๆ ทั้งแบบฟรีและจ่ายเงิน คุณไม่ต้องเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมเลยในการที่จะใช้ปลั๊กอิน ซึ่งนี่ก็ทำให้ WordPress.org นั้นเป็นแพลตฟอร์ม CMS ที่ครอบคลุมที่สุด
ประหยัดสูงสุด 75 % เมื่อซื้อบริการกับ Hostinger!
ข้อเสนอมีเวลาจำกัด - อย่าพลาด!
ฟีเจอร์
- ใช้งานได้ฟรี WordPress.org เป็น CMS ฟรีที่มีทีมงานจิตอาสาเป็นผู้ดูแล ดังนั้นฟีเจอร์สำคัญ ๆ ทั้งหมดจึงเปิดให้บริการฟรี ถึงแม้จะมีบางธีมและปลั๊กอินที่ต้องเสียเงิน แต่คุณก็ไม่ได้จำเป็นต้องเลือกใช้มันเพื่อที่จะใช้ประโยชน์จาก CMS นี้ให้ได้มากที่สุด
- ฟีเจอร์ทำบล็อกอันยอดเยี่ยม WordPress.org มี editor สำหรับข้อความแบบเป็น block ใหม่ ซึ่งใช้งานง่ายและเป็นมิตรต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ นอกจากนี้มันยังมีฟีเจอร์ SEO ที่บิ้วท์อินมาด้วยสำหรับใช้ tag กับจัดหมวดหมู่โพสต์และเพจของคุณเพื่อให้ search engine รวบรวมข้อมูลคอนเทนต์ของคุณได้ง่าย
- ความยืดหยุ่นด้านการโฮสติ้งและโดเมน เนื่องจาก WordPress.org เป็น CMS แบบ self-hosted คุณจึงสามารถเลือกผู้ให้บริการจดทะเบียนโฮสติ้งและ/หรือโดเมนได้ตามที่คุณต้องการ นี่จะเป็นการเพิ่มความซับซ้อนในการตั้งค่า WordPress.org เล็กน้อย แต่มันหมายความว่าคุณสามารถเลือกบริการที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณได้
- ตัวเลือกขั้นสูงสำหรับนักพัฒนา หากคุณต้องการขยายความสามารถของ WordPress.org ยิ่งขึ้นไปอีก มันก็ยังมีฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนามากมาย แถมยังมีสอนให้คุณสร้างธีมและปลั๊กอินของคุณเองด้วย
UI มีภาษาไทยไหม | มี |
โฮสติ้ง | Self-hosted |
แอปพลิเคชันและส่วนขยาย | ปลั๊กอินฟรีและจ่ายเงินรวมถึง 59,000 ปลั๊กอิน |
ฝ่ายให้บริการลูกค้า | เว็บบอร์ดสนับสนุน เอกสารสนับสนุน การนัดเจอ และเวิร์คช็อป |
ถ้าคุณมีประสบการณ์ในการสร้างเว็บอยู่แล้ว Joomla! นั้นจะเป็น CMS แบบโอเพนซอร์ซที่น่าสนใจมากสำหรับคุณ CMS นี้จะมีเทมเพลตที่บิ้วท์อินมาแค่สองแบบ ดังนั้นคุณจะต้องซื้อเทมเพลตจากบุคคลที่สาม ไม่ก็สร้างเทมเพลตเองถึงจะสร้างเว็บไซต์ที่ปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ Joomla! เปิดให้ใช้งานได้ฟรี แต่เนื่องจากมันมีรูปแบบ self-hosted คุณจะต้องจัดการเรื่องโฮสติ้งและจดทะเบียนโดเมนเอง ถ้าคุณมีงบประมาณจำกัด การเลือกผู้จดทะเบียนโดเมนและโฮสเอง ก็จะช่วยคุณประหยัดได้ Joomla! มีเครื่องมือพัฒนาขั้นสูงที่ยอดเยี่ยมมาก มันมีไกด์ไลน์การเขียนโค้ดที่ครอบคลุม มีเอกสารสำหรับนักพัฒนามากมาย และ Joomla! แบบที่เป็นอิสระ Framework สำหรับสร้างแอปพลิเคชัน PHP
ประหยัดสูงสุด 79 % เมื่อซื้อบริการกับ ScalaHosting!
ข้อเสนอมีเวลาจำกัด - อย่าพลาด!
ฟีเจอร์
- ซอฟต์แวร์ CMS แบบโอเพนซอร์ซ ด้วยเอกสารสำหรับนักพัฒนา มาตรฐานการเขียนโค้ด และ framework ของ Joomla! ทำให้นักพัฒนาสามารถมีส่วนช่วย Joomla! ได้อย่างง่ายดาย ผ่านการสร้างส่วนขยายที่พวกเขาต้องการ
- อุปกรณ์จัดการเนื้อหาที่ดีมาก Joomla! นั้นจะรองรับ ข้อมูลอภิพันธุ์ คีย์เวิร์ด และการทำ URL optimization อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงยังมีการตั้งเวอร์ชั่นของเนื้อหาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่เผลอทำให้งานที่คุณลงแรงกายแรงใจอย่างหนักสูญหายไป ในกรณีที่คุณต้องทำการ roll back หรืออัปเดตเว็บไซต์
- แพ็คแปลภาษาถึง 70+ ภาษา สร้างเว็บไซต์ที่รองรับได้หลายภาษาซึ่งจะเปลี่ยนไปใช้ภาษาตามเบราว์เซอร์ของผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ นี่จะช่วยให้คนเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- เครื่องมือแก้ไขและเผยแพร่คอนเทนต์ ใช้ text editor ที่บิ้วท์อินมาเพื่อเขียนบทความโดยไม่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีเขียนโค้ด คุณยังสามารถตั้งเวลาบทความ บริหารจัดการอัปโหลดสื่อ จัดบทความของคุณลงตามหมวดหมู่ และช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาเนื้อหาตาม tag ได้
UI มีภาษาไทยไหม | มี |
โฮสติ้ง | Self-hosted |
แอปพลิเคชันและส่วนขยาย | ส่วนขยายของบุคคลที่สามเป็นพัน ๆ ทั้งฟรีและเสียเงิน |
ฝ่ายให้บริการลูกค้า | เอกสารที่ครอบคลุม วิดีโอสอนเปิดให้ดูฟรี และเว็บบอร์ดชุมชนขนาดใหญ่ |
Squarespace ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ แต่มันยังเป็น CMS แบบออลอินวันที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีแพลนระดับฟรีเหมือนแพลตฟอร์ม CMS อื่น ๆ แต่ราคาของมันก็สมเหตุสมผลมาก เนื่องจากมันจะช่วยดูแลเรื่องการโฮสติ้งและการจดทะเบียนโดเมนสำหรับเว็บไซต์ของคุณให้ด้วย นี่ทำให้ Squarespace เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับมือใหม่หรือใครก็ตามที่ต้องการสร้างเว็บไซต์อย่างไม่ยุ่งยาก ฟีเจอร์เขียนบล็อก ของ Squarespace นั้นก็น่าอัศจรรย์ใจมาก คุณสามารถเปลี่ยนแบบอักษรสำหรับแต่ละโพสต์ได้ สามารถตั้งค่าโพสต์ให้ผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ตรวจทานก่อนเผยแพร่ได้ และก็สามารถส่งบล็อกโพสต์ออกไปยังรายชื่ออีเมลของคุณตอนที่คุณเผยแพร่มันได้ด้วย คุณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องการเขียนโค้ดเลยสำหรับการใช้งาน Squarespace คุณสามารถจัดการเว็บไซต์ของคุณได้ด้วย block editor แบบลากวาง แต่มีข้อเสียใหญ่อยู่ข้อหนึ่ง – เรื่องของดีไซน์ เรียกว่าไม่ใกล้เคียงกับ WordPress หรือ Joomla! เลยสักนิด อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีทำให้เว็บไซต์ของคุณดูไม่เหมือนใครได้อีกหลายทาง
ประหยัดมากถึง 36 % จากแผนการใช้งานของ SquareSpace ได้เลยวันนี้!
แถมยังได้โดเมนฟรีไปใช้หนึ่งปีอีกด้วย!
ฟีเจอร์
- เครื่องมือ SEO ขั้นสูง ทำการค้นคว้าคีย์เวิร์ดสำหรับเว็บไซต์ของคุณและก็ใช้วิธีการทำ SEO ที่ดีที่สุดตามเช็คลิสต์เพื่อให้คนค้นหาคอนเทนต์ของคุณเจอทางออนไลน์ คุณสามารถใช้ Squarespace ร่วมกับ Google Search Console ได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้เข้าใจว่าคีย์เวิร์ดอะไรที่ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณใช้
- การตลาดทางอีเมลแบบบิ้วท์อิน การทำแคมเปญอีเมลของ Squarespace จะทำให้คุณสามารถจัดการเรื่องการตลาดทางอีเมลได้โดยที่คุณไม่ต้องคอยเปลี่ยนแท็บอยู่ตลอด ด้วยการส่งอีเมลอัตโนมัติ การวิเคราะห์พื้นฐาน และการบริหารจัดการรายชื่อติดต่ออันง่ายดาย ฟีเจอร์นี้ทำให้การตลาดทางอีเมลของคุณกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเว็บไซต์ของคุณ
- การบูรณาการบิ้วท์อินนับร้อย คุณสามารถเชื่อมต่อ Squarespace เข้ากับบัญชีโซเชียลมีเดียของคุณ บริการชำระเงิน และแพลตฟอร์ม affiliate market ได้อย่างง่ายดาย คุณยังสามารถดาวน์โหลดส่วนขยายทั้งฟรีและเสียเงินซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังบริการของบุคคลที่สามได้ด้วย
- คอนเทนต์สำหรับสมาชิกเท่านั้น ทำเงินจากบล็อก วิดีโอ หรือเนื้อหาอื่น ๆ ของคุณ ด้วยพื้นที่จำกัดสำหรับสมาชิกบน Squarespace คุณยังสามารถเชื่อมต่อฟีเจอร์นี้ไปยังฟีเจอร์การตลาดทางอีเมลของ Squarespace เพื่ออัปเดตรายการสมาชิกโดยอัตโนมัติได้อีกด้วย
UI มีภาษาไทยไหม | ไม่มี |
โฮสติ้ง | ถูกรวมอยู่ในแพลนของ Squarespace แล้ว |
แอปพลิเคชันและส่วนขยาย | การบูรณาการแบบบิ้วท์อินหลายร้อยให้เลือก พร้อมส่วนขยายมากมายทั้งฟรีและต้องจ่ายเงิน |
ฝ่ายให้บริการลูกค้า | ไลฟ์แชท อีเมล เว็บบอร์ดสนับสนุน วิดีโอสอน สัมมนาทางเว็บ และฐานข้อมูล |
Drupal อาจจะเป็น CMS ขั้นสูงที่สุดเท่าที่มีในปัจจุบัน และมันไม่ใช่สิ่งที่เราอยากจะแนะนำให้กับมือใหม่พึ่งหัดสร้างเว็บไซต์ หรือไม่มีงบที่จะจ้างนักพัฒนาให้มาบริหารจัดการให้คุณ ถึงแม้ว่ามันจะมีเอกสารที่ครอบคลุมเป็นอย่างมาก แต่มันไม่เหมาะสำหรับคนใจอ่อน Drupal นั้นเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับเว็บไซต์ที่มีข้อมูลเยอะ CMS นี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ทำธุรกิจโดยเฉพาะ ดังนั้น framework พื้นฐานจึงสามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยความเร็วสูงได้ ช่างภาพ สตูดิโอถ่ายทำ โปรดิวเซอร์ และศิลปินด้านสื่อทัศน์อื่น ๆ จะได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้เป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาจะไม่ต้องมาคอยกังวลกับเรื่องความช้าในการโหลดเลย Drupal นั้นยังมีส่วนขยาย (หรือโมดูล) ให้ใช้ฟรีถึง 48,000 ตัวเลือก สำหรับการเพิ่มฟังก์ชันใช้งาน คุณสามารถใช้มันเพิ่ม Google Analytics เข้าไปในเว็บไซต์ของคุณ ใช้จัดการข้อมูลสำรอง ใช้สร้างไซต์แมพ และอื่น ๆ ถึงแม้ว่าฟีเจอร์เหล่านี้จะเป็นสิ่งที่แพลตฟอร์ม CMS ทั่วไปต่างก็มีให้อยู่แล้วนั้น การที่มันถูกเปิดเป็นตัวเลือกให้ดาวน์โหลดเพิ่มได้ก็เป็นประโยชน์ด้านความยืดหยุ่นเช่นกัน
ฟีเจอร์
- CMS แบบโอเพนซอร์ซ Drupal นั้นมีผู้อาสาให้ความช่วยเหลือเป็นร้อยที่ช่วยสร้างแอปพลิเคชันหลัก ส่วนขยาย และธีม รวมถึงแก้บัค มีคู่มือสำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือให้ดูได้อย่างครอบคลุม ถ้าคุณได้พัฒนาอะไรบางอย่างสำหรับเว็บไซต์ของคุณซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อชุมชน
- ใช้ทรัพยากรน้อยและเร็ว คุณสามารถเลือกติดตั้งโมดูลสำหรับสิ่งที่แพลตฟอร์ม CMS อื่น ๆ ติดตั้งมาให้อยู่แล้วเป็นมาตรฐาน ซึ่งก็หมายความว่าตัว CMS หลักนี้จะโหลดได้เร็วมาก การที่คุณเลือกได้ว่าอยากจะเพิ่มส่วนขยายเฉพาะตอนที่คุณจะใช้งานมันนั้น เป็นการช่วยเลี่ยงความเยอะเกินไปของโซลูชันแบบออลอินวัน
- เอกสารที่ครอบคลุม หากคุณมีประสบการณ์ด้านการพัฒนา แต่คุณไม่เคยใช้ Drupal มาก่อน CMS นี้ก็มีคู่มือผู้ใช้งาน คู่มือการพัฒนา และวิกิที่รวบรวมโดยชุมชนเพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นได้
- เทมเพลตเป็นพันให้เลือก CMS นี้มีเทมเพลตให้คุณเลือกใช้ไม่เบื่ออย่างแน่นอน Drupal เองนั้นมีเทมเพลตที่ส่งเข้ามาโดยชุมชนให้เลือกใช้ฟรีถึง 3,000 แบบ ส่วนใหญ่ก็มาพร้อมกับคู่มือและเอกสารในการติดตั้ง บางครั้งถึงขั้นมีข้อมูลติดต่อของผู้พัฒนาเลยด้วย เผื่อกรณีสำหรับที่คุณไปเจอบัคเข้า
UI มีภาษาไทยไหม | มี |
โฮสติ้ง | Self-hosted |
แอปพลิเคชันและส่วนขยาย | โมดูลฟรี 48,000 โมดูลเพื่อขยายฟังก์ชันของ Drupal |
ฝ่ายให้บริการลูกค้า | คู่มือสำหรับผู้ใช้งาน เอกสารสำหรับพัฒนาและช่วยเหลือ เว็บบอร์ดสนับสนุน วิกิ marketplace ผู้ให้บริการที่ผ่านการตรวจสอบ กิจกรรมชุมชน |
ให้คิดซะว่า CMS นี้เป็นเหมือน WordPress.org ที่เล็กกว่าและเหมาะกับมือใหม่มากกว่า WordPress.com เปิดให้คุณสามารถจ่ายเงินเพื่อรับบริการโฮสติ้ง ชื่อโดเมน และเครื่องมือความปลอดภัยและอีคอมเมิร์ซได้ ถ้าเป็นแบบ self-hosted คุณต้องไปจัดการเรื่องพวกนี้เอง ดังนั้น WordPress.com จึงมีความยุ่งยากน้อยกว่ามาก แน่นอนว่านี่ก็จะเป็นการลดความยืดหยุ่นของคุณลงเล็กน้อย แต่ก็แค่ลดมาเหลือเท่ากับ CMS อื่น ๆ ที่ดูแลเรื่องโฮสติ้งให้คุณจนจบ หากคุณไม่เป็นห่วงเรื่องการปรับแต่งประสิทธิภาพให้เหมาะสมสำหรับเว็บไซต์ของคุณ คุณก็จะพบว่า WordPress.com ทำให้การสร้างเว็บไซต์ที่ทรงพลังเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ในฐานะลูกค้าของ WordPress.com คุณก็สามารถหวังพึ่งไลฟ์แชท 24/7 และบริการทางอีเมลได้ กรณีที่คุณเผชิญกับปัญหาเข้า
ฟีเจอร์
- CMS แบบออลอินวัน WordPress.com จัดการเรื่องทาง back-end ให้คุณทั้งหมด ดังนั้นคุณก็เหมือนได้รับเว็บไซต์แบบ self-hosted โดยที่ไม่ต้องทำอะไรซับซ้อน มันเป็นตัวเลือกที่เยี่ยมยอดมาก ถ้าคุณมีงบลงทุนสำหรับโซลูชันที่ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งอะไร
- การบูรณาการที่ทรงพลัง คุณสามารถบูรณาการ WordPress.com เข้าได้กับเกือบทุกอย่างที่มี API เนื่องจากมันมีปลั๊กอินให้เลือกเป็นพัน ๆ แต่ปลั๊กอินจะเปิดให้ใช้งานเฉพาะแพลนระดับธุรกิจและสูงกว่าเท่านั้น
- ความสามารถด้านอีคอมเมิร์ซ ในแพลนระดับธุรกิจและสูงกว่า คุณยังจะสามารถตั้งค่าร้านค้าออนไลน์พร้อมคำนวณภาษีอัตโนมัติ บูรณาการร่วมกับ Stripe และ PayPal คูปอง รีวิวสินค้า และอื่น ๆ และก็ยังมีแพลนอีคอมเมิร์ซซึ่งจะบูรณาการร่วมกับบริการขนส่งอย่าง UPS เพื่อให้ชีวิตคุณง่ายยิ่งขึ้นด้วย
- สร้างรายได้จากโฆษณา ถ้าคุณใช้แพลนระดับพรีเมียมขึ้นไป คุณจะสามารถใช้โฆษณาแบบบิ้วท์อินเพื่อสร้าง passive income จากเนื้อหาของคุณได้ นี่ทำให้ WordPress.com เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับบล็อกเกอร์และนักสร้างคอนเทนต์หน้าใหม่
UI มีภาษาไทยไหม | มี (บางส่วน) |
โฮสติ้ง | ถูกรวมอยู่ในแพลนของ WordPress.com แล้ว |
แอปพลิเคชันและส่วนขยาย | มีปลั๊กอินและส่วนขยายเป็นพัน ๆ สำหรับแพลนระดับธุรกิจขึ้นไป |
ฝ่ายให้บริการลูกค้า | ไลฟ์แชท 24/7 และอีเมล ฐานข้อมูล สัมมนาทางเว็บและวิดีโอสอนฟรี |
6. Shopify – CMS ที่ดีที่สุดสำหรับอีคอมเมิร์ซ
Shopify เป็น CMS อีคอมเมิร์ซที่มีคนรู้จักมากที่สุด และก็เข้าใจได้ไม่ยากเลยว่าทำไม มันมีฟีเจอร์จัดการร้านค้าอย่างเช่น โค้ดลดราคา การบริหารคงคลัง และมีบริการชำระเงินให้เลือกกว่า 100+ บริการShopify ทำให้การสร้างร้านค้าออนไลน์กลายเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถซิงค์ร้าน Shopify กับ marketplace อีคอมเมิร์ซอื่น ๆ ได้ด้วย ทำให้คุณสามารถควบคุมการขายทั้งหมดของคุณจบในที่เดียว มันไม่ใช่ตัวเลือก CMS อีคอมเมิร์ซที่มีราคาถูกที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าธุรกิจของคุณยังมีขนาดเล็ก ๆ และคุณขายสินค้าได้ไม่มากในแต่ละเดือน อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณมีธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ประสบความสำเร็จ และคุณกำลังมองหาวิธีเติบโตขั้นถัดไป Shopify ก็คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอนฟีเจอร์
- ระบบ Point of sale Shopify มีเครื่องมือ point of sale (POS) ให้คุณเลือกใช้สำหรับการชำระเงิน ติดตามคงคลัง และดูรายงานงบการเงิน คุณยังสามารถใช้ POS ของ Shopify บนสมาร์ทโฟนของคุณได้ด้วย ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
- แอปพลิเคชันให้เลือกถึง 6,000 ตัว เชื่อมต่อ Shopify เข้ากับการตลาดทางอีเมล ซอฟต์แวร์ทำบัญชี หรือแม้แต่โปรไฟล์โซเชียลมีเดียของคุณเพื่อเติมพลังให้ร้านอีคอมเมิร์ซของคุณ
- แดชบอร์ดวิเคราะห์แบบบิ้วท์อิน คุณสามารถดูสถิติผู้เยี่ยมชม อัตราการขาย รายได้ และกิจกรรมบนร้านแบบเรียลไทม์ได้อย่างรวดเร็วบนแดชบอร์ด Shopify ของคุณ – ไม่ต้องใช้ปลั๊กอินเสริมใด ๆ
- ทรัพยากรการเรียนรู้ Shopify มีคอร์สเรียนธุรกิจฟรี มีพอดแคสต์สองช่องทาง และมีกิจกรรมชุมชนในพื้นที่เพื่อช่วยให้คุณสร้างเครือข่ายและเรียนรู้จากผู้ค้ารายอื่น ๆ มีข้อมูลมากมายที่จะช่วยให้คุณขยายกิจการของคุณ
UI มีภาษาไทยไหม | มี |
โฮสติ้ง | ถูกรวมอยู่ในแพลนของ Shopify แล้ว |
แอปพลิเคชันและส่วนขยาย | แอปพลิเคชันทั้งฟรีและจ่ายเงินกว่า 6,000 ตัว |
ฝ่ายให้บริการลูกค้า | ไลฟ์แชท 24/7 อีเมล และโทรศัพท์ |
ระบบการจัดการเนื้อหาไหนที่ใช่สำหรับคุณ?
ตัวเลือกเบอร์หนึ่งของเราคือ WordPress.org มันเปิดให้ใช้งานได้ฟรี มีความยืดหยุ่นทำให้สามารถขยายขนาดเว็บไซต์ของคุณได้ ในกรณีที่ธุรกิจ – หรืองานอดิเรก – ขยายขนาดหรือเปลี่ยนแปลงไป
แถมคุณยังสามารถเลือกโฮสและผู้จดทะเบียนโดเมนได้เอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เยี่ยมมากถ้าคุณมีงบประมาณจำกัด ยกตัวอย่างเช่น Hostinger มีบริการโฮส WordPress ที่ราคาถูกมาก ๆ พร้อมประสิทธิภาพที่ดีมาก ๆ
ถึงจะมีข้อดีมากมายแต่ WordPress.org นั้นก็ไม่ใช่ CMS ที่เป็นมิตรกับมือใหม่สักเท่าไร ดังนั้น ถ้าคุณยังไม่เคยสร้างเว็บไซต์มาก่อนเลย ขอแนะนำให้เลือกดู Squarespace ดีกว่า มันเป็นโซลูชันแบบออลอินวัน ดังนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเลย สนใจแค่เรื่องทำเว็บไซต์ออกมาให้ดูสวยก็พอแล้ว
ถ้าคุณมีประสบการณ์ด้านการพัฒนามาแล้ว และกำลังมองหาเครื่องมือขั้นสูงอยู่ เราขอแนะนำ Joomla! มันเป็นอีกหนึ่ง CMS โอเพนซอร์ซฟรี และมันก็มาพร้อมกับเอกสารสำหรับนักพัฒนา คู่มือเขียนโค้ด และ PHP framework มากมายที่จะช่วยคุณสร้างแอปพลิเคชันสำหรับเว็บไซต์ของคุณ
และถ้าคุณกำลังมองหาโฮสที่สมบูรณ์แบบอยู่ล่ะก็ Scala Hosting ก็จะเหมาะมาก ๆ เลยสำหรับเว็บไซต์ของ Joomla! มันมีแพลนแบบคลาวด์ที่ปรับแต่งได้ตามความเหมาะสมในราคาไม่แพง
นี่เป็นการสรุปอย่างย่อเกี่ยวกับระบบการจัดการเนื้อที่ดีที่สุดทั้ง 6 ที่มีในปัจจุบัน
CMS/เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ | ฟีเจอร์เด่น | |
WordPress.org | มีจิตอาสาคอยอัปเดต พัฒนา และสร้างปลั๊กอินจำนวนมาก เพื่อช่วยปรับปรุงซอฟต์แวร์ | |
Joomla! | เอกสารสำหรับนักพัฒนาและ framework ที่จะทำให้คุณสามารถขยายและปรับแต่ง Joomla! ได้สำหรับเว็บไซต์ทุกชนิด | |
Squarespace | ฟีเจอร์ SEO ขั้นสูงที่บิ้วท์อินมาในตัว อย่างเช่นการค้นคว้าคีย์เวิร์ด การวิเคราะห์เว็บไซต์ และการสร้างไซต์แมพอัตโนมัติ | |
Drupal | แยกส่วนเป็นโมดูล ทำให้มันใช้ทรัพยากรน้อย มีความเร็ว และเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีข้อมูลเยอะ | |
WordPress.com | Block editor ที่เป็นมิตรกับมือใหม่ ทำให้การสร้างเพจและเขียนบล็อกโพสต์เป็นเรื่องง่าย | |
Shopify | ฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซขั้นสูงซึ่งประกอบไปด้วย การบริหารจัดการคงคลัง โค้ดส่วนลด และการบริหารจัดการ marketplace บุคคลที่สาม |